บ่นนัก จัดให้ “มาม่า” ยกเครื่องบิ๊กแพ็ค ปรับรส ปรุงสูตร แก้เพนพอยท์ 10 กว่าปี
1 ซองไม่อิ่ม! 2 ซองไม่หมด ซองใหญ่ไม่อร่อย! เป็นประโยคของสายบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า” บ่นมาอย่างยาวนาน หรือเรียกว่าบูลลี่สินค้าก็ว่าได้
เพราะเวลาต้ม “มาม่า” จะรสหมูสับ ต้มยำกุ้ง ต้มยำกุ้งน้ำข้นตัวหลัก 6 บาท ซึ่งเป็นซองเล็ก หลายคนมักบอกว่าไม่อิ่มเอาซะเลย ครั้นจะต้มทีละ 2 ซอง ปัญหาหรือ Pain point ที่คือกินไม่หมด เป็นปมปวดหัวพอๆกับไก่ไข่อะไรเกิดก่อนกัน
2 ซองไม่หมด งั้นขยับไปกินมาม่า บิ๊กแพ็ค.. อะ! เจอปัญหาอีกคือ “รสชาติไม่โดน” ซึ่งเสียงสะท้อนจากผู้บริโภคดังกล่าวมีมาเกินกว่า 10 ปีได้ แต่ผู้ผลิตก็ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนสูตร หรือแก้ Pain point ให้เสียที
ทว่า ล่าสุด บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด(มหาชน) หรือ TFMAMA เลยจัดให้ ยกเครื่องสินค้าให้ “อร่อย” สมกับสโลแกน “มาม่าอร่อย” ออกสินค้าใหม่ “มาม่า บิ๊กแพ็ค” ทั้งรสหมูสับ ต้มยำกุ้ง
แล้วสินค้าใหม่ปรับรส ปรุงสูตรอย่างไรบ้าง พลิกหลังซองวัตถุดิบ รวมถึงหน้าซองจะเห็นการปรับนิดเพิ่มเครื่องปรุงอีกหน่อย หรือเส้นเท่าเดิม เพิ่มเติมเครื่องปรุงรสนั่นเอง รวมๆเลยทำให้ปริมาณสินค้าบิ๊กแพ็คเพิ่มมา 5 กรัม จาก 90 เป็น 95 กรัม
หัวใจสินค้า(Product)เปลี่ยนแล้ว ยังปรับบรรจุภัณฑ์เล็กน้อยให้ได้ฟีลโฉมใหม่ ที่มาพร้อมการการันตี “บิ๊กแพ็ค อร่อยเต็มอิ่ม” ไม่แพ้ซองเล็กว่างั้น! ส่วนจะถูกใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย อย่างจุดขายหน้าซองไหม แบรนด์ต้องติดตามกระแสตอบรับจากสาวกต่อไป
สำหรับ “มาม่า” เป็นเจ้าตลาดบะหมี่ฯ ที่มีมูลค่านับ “หมื่นล้านบาท” การวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดหรือ Marketing Mix อยู่แล้ว
ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบัน การบริโภคบะหมี่ฯ เปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย นอกจากเลือกบิ๊กแบรนด์ในไทย ยังเปิดรับสินค้าใหม่ที่รสชาติหลากหลาย ราคาสูงขึ้น เช่น บะหมี่ฯเกาหลีมาแรง ราคา 40-50 บาทต่อซอง บะหมี่ฯรสเผ็ด เกิดการชาเลนจ์แข่งกันกินเผ็ดโหดออกมาเผยแพร่บนโซเชียลกันคึกคัก หรือส่องบนชั้นวางสินค้า(เชลฟ์)ในช่องทางจำหน่ายต่างๆ เห็นสารพัดยี่ห้อเต็มไปหมด
ท่ามกลางประเด็นร้อนบะหมี่ฯ ขึ้นราคา ผู้ประกอบการยังออกสินค้าใหม่มาปลุกตลาดให้คึกคักบ้าง ส่วนภาพรวมปี 2565 ตลาดบะหมี่ฯ จะมีทิศทางอย่างไร ต้องเกาะติดต่อ