บล.กสิกรไทย เฟ้น 5 ธีมการลงทุนรับมือตลาดหุ้นผันผวน
บล.กสิกรไทย คาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าแกว่งในกรอบ 1,650 -1,705 จุด แนะเก็งกำไรงบฯ ไตรมาส 1 ปี 65 พร้อมเปิด 5 ธีมกา่รลงทุนน่าสนใจในช่วงตลาดหุ้นผันผวน
บล.กสิกรไทย คาดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าจะแกว่งในกรอบ 1,650 -1,705 จุด โดยประเด็นที่ต้องติดตามในช่วงนี้ คือ การรายงานงบฯ งวด 1Q22 โดย KS คาดกำไรรวมบจ.จะเติบโต 5% QoQ และ 4% YoY นำโดยกลุ่มธนาคาร พลังงาน ค้าปลีก โรงพยาบาล ท่องเที่ยว และอิเล็กทรอนิกส์
โดยหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรจะดีต่อเนื่องใน 2Q22 คือ PTTEP, CPALL, BH, BDMS, PR9, AWC, CENTEL, MINT, SHR, AOT, CPN, DTAC, PSL, RBF, TVO, EPG แนะนำหาจังหวะลงทุน
ส่วนการประชุม Fed สัปดาห์นี้ มองว่าไม่มีประเด็นบวกหรือลบ และไม่มีผลต่อตลาดหุ้นโลก เนื่องจากเป็นรอบนี้ไม่มีการแสดงความเห็นจากคณะกรรมการ (Fed) เพราะเป็นช่วง Blackout Period
กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำการลงทุนหลักๆ ที่คาดจะ Perform ในช่วง 2Q22 และ 2H22 หรือช่วงที่ตลาดหุ้นจะเผชิญปัจจัยกดดันทั้ง Real yields เป็นบวก, ดอกเบี้ยสหรัฐเป็นขาขึ้น Fed ลด Balance Sheet สงครามรัสเซีย-ยูเครนกลับมาปะทุ ฯลฯ คือ
1.) หุ้นคุณภาพ (Quality) อาทิ DCC
2.) หุ้น Anti Commodity อาทิ (CBG, OSP, OR, PTG, EPG, SCGP, BGRIM,GULF, AAV, BA)
3.) Bond Yield คาดผ่านจุด Peak บวกต่อกลุ่มการเงินเช่าซื้อ แนะนำ (MTC, SAWAD, HENG, MICRO CHAYO)
4.) แนวโน้มเงินบาทอ่อนค่า แนะนำหุ้นส่งออก (ASIAN, SAPPE, GFPT, EPG)
5.) หุ้นเปิดเมือง (Reopen) ยังชอบ "กลุ่มโรงแรม" โดยบริษัทที่มี Upside เทียบกับราคาเป้าหมาย คือ SHR (Upside 28%), MINT (Upside 20.2%), CENTEL (Upside 5.9%) "กลุ่มรถไฟฟ้า" ชอบ BEM เป็น 1 ในหุ้นเปิดเมืองที่ราคายังไม่ขึ้น และ "กลุ่ม ICT" แนะนำ DTAC
ส่วนกลุ่มแนะนำชะลอการลงุทุน คือ
1.) Global play คือ กลุ่มปิโตรเคมี, อิเล็กทรอนิกส์ จากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกมีความน่าจะเป็นสูงขึ้นที่เผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
2.) กลุ่ม Growth ที่ราคาขึ้นเกินพื้นฐาน
อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ต่างๆคลีคลาย อาทิ สงครามรัสเซีย-ยูเครนดีขึ้น เห็นจุดจบ ฯลฯ แนะนำสลับกลับมาลงทุนกลุ่มที่แนะนำหลีกเลี่ยง
โดยมีหุ้น Top pick ได้แก่
- BRI (ราคาพื้นฐาน 12.90 บาท) บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 2565 ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% YoY และมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ปี 2565 ที่ 7.25 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 90% YoY ความคืบหน้าของรูปแบบการลงทุนแบบร่วมทุนจะสร้างกำไรพิเศษให้กับบริษัทในระยะสั้น และเพิ่มความสามารถในการขยายธุรกิจของบริษัท ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการเพิ่ม Upside ให้กับราคาเป้าหมายของเรา
- BANPU (ราคาพื้นฐาน 12.80 บาท) Sentiment บวกตามทิศทางราคาถ่านหินที่ยังขึ้นต่อหลังจากจีนประกาศลดภาษีนำเข้าถ่านหินเหลือ 0% และแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2565 จากราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้น ผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงราคาที่ลดลง และกำไรพิเศษจากการขาย Sunseap และมูลค่าหุ้นที่ไม่แพง
ประเด็นเศรษฐกิจที่น่าติดตามสัปดาห์หน้า
- 2 พ.ค. : ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) ของสหรัฐ เดือน เม.ย. ตลาดคาด 58 จุด จาก 57.1 จุด ในเดือน มี.ค.
- 3 พ.ค. : ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของยุโรป (เดือนต่อเดือน) เดือน (มี.ค.) ตลาดคาด 1.3% MOM จาก 1.1% MoM ในเดือน ก.พ.
- 4 พ.ค. : ดัชนี PMI ภาคการบริการของยุโรป เดือน เม.ย.ตลาดคาด 54.8 จุด จาก 57.7 จุด ในเดือน มี.ค., การจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรมจากเอดีพี (ADP) เดือน (เม.ย.) ที่ 3.7 แสนราย จาก 4.55 แสนราย, ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็มของสหรัฐ (ISM) (เม.ย.) ตลาดคาด 59 จุด จาก 58.3 จุด
- 5 พ.ค. : ติดตามผลการประชุม Fed คาดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps และเริ่มแผน QT ครั้งแรกวงเงิน 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน, รายงานดัชนี PMI ภาคการบริการของจีนจากสถาบัน Caixin (เม.ย.), ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ตลาดคาดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1% จาก 0.75%
- 6 พ.ค. : ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเขตโตเกียว (ปีต่อปี) (เม.ย.) ตลาดคาด 1.8% YoY จาก 0.8% YoY ในเดือน มี.ค., การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (เม.ย.) ตลาดคาด 4 แสนตำแหน่งจาก 4.31 ตำแหน่งในเดือน มี.ค.