HTC - รอปัจจัยหนุนใหม่ (วันที่ 3 พฤษภาคม 2565)
เราคาดกำไร 1Q22F จะลดลง 13% yoy เป็น 128 ลบ. เป็นผลจากต้นทุนบรรจุภัณฑ์สูงขึ้น แต่เราคาดดีมานด์จะแข็งแกร่งขึ้นใน 2H เนื่องจากการเปิดภาคท่องเที่ยวอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุน 3 ปัจจัย: (1) สูตรน้ำตาลน้อยลดต้นทุนวัตถุดิบ, (2) การปรับราคาขาย และ (3) ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจอสังหาฯ คงคำแนะนำ ซื้อ จากดีมานด์ใน 2H แข็งแกร่งรวมถึงมีปัจจัยหนุนใหม่ ราคาเป้าหมายใหม่ของเราที่ 38.00 บาทอ้างอิง 14x FY22F EPS
เราคาดกำไร 1Q21F ลดลง 13% yoy
เราคาดรายได้ขายใน 1Q จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 1.7 พันลบ. (+3% yoy, +3% qoq) เป็นผลจาก Demand น้ำอัดลมสูงขึ้นจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในภาคใต้ เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงเป็น 40.0% จาก 41.5% ใน 1Q21 เนื่องจากต้นทุนบรรจุภัณฑ์สูงขึ้น สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายมีแนวโน้มทรงตัว yoy ที่ 31.2% เราคาดกำไร 1Q21F ที่ 128 ลบ. (-13% yoy, +71% qoq) ผลประกอบการดีขึ้น qoq เป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากกลยุทธ์ที่เน้นไปที่การขายผลิตภัณฑ์ขนาดเล็ก ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า
คาดดีมานด์แข็งแกร่งขึ้นใน 2H หนุนจากการเปิดการท่องเที่ยว
เราคาดจะมีปัจจัยหนุนกำไร 3 ปัจจัย: (1) สูตรน้ำตาลน้อยลดผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบ, (2) การปรับราคาขาย, และ (3) ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ ล่าสุดน้ำตาลคิดเป็น 10% ของต้นทุนการผลิต เราคาดการใช้น้ำตาลลดลงทุก 1% จะเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น 0.25% และเราคาดการปรับราคาขึ้นทุก 1.0% จะเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น 0.9% หรือเพิ่มกำไรสุทธิราว 10 ลบ. ส่วนธุรกิจอสังหาฯ เราคาดบริษัทลูกจะมีรายได้ใน 2022 ประมาณ 50 ลบ. (จากมูลค่าโครงการ 300 ลบ.) และมีส่วนแบ่งกำไรราว 5 ลบ.
คงคำแนะนำ ซื้อ TP ใหม่ที่ 38.00 บาท (จากเดิม 43.70 บาท)
เราปรับประมาณการกำไรปี FY22F-FY23F ลง 20% และ 12% เป็น 546 ลบ. และ 661 ลบ. ตามลำดับจากรายได้ขายและอัตรากำไรขั้นต้นลดลง ปรับราคาเป้าหมายเป็น 38.00 บาท (จากเดิม 43.70 บาท) อิง 14x FY22F EPS