5 หุ้นน้ำมันปาล์มขาขึ้น ขาดแคลน-ราคาพุ่ง ปี 65
ราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคพาเหรดขึ้นราคากันไม่ได้หยุด หลังต้นทุนด้านพลังงาน อย่าง “ดีเซล” ดีเดย์ขยับขึ้นมากกว่า 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 รวมไปถึงต้นทุนสินค้าเกษตร และสินค้าโภคภัณฑ์ชนิดอื่นราคาโลกขึ้นมามากกว่า 50 % ในช่วงปี 2564-2565 อย่างน้ำมันปาล์ม
น้ำมันปาล์มมีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าในชีวิตประจำวันทางตรงคือน้ำมันปาล์มที่ใช้ประกอบอาหารปรุงสุกและแปรรูป อย่างสินค้ายอดฮิตช่วงปลายเดือน “มาม่า” ที่ต้องใช้ในการผลิตเป็นหลัก ส่วนทางอ้อมการนำน้ำมันปาล์มไปผสมในน้ำมันกลายไบโอดีเซล กลุ่ม B10 - B7 - B 5 เป็นต้น
ภาวะราคาน้ำมันปาล์มปรับตัวสูงขึ้นมีสัญญาณในปี 2564 รายงานราคาปาล์มทะลายแตะระดั บ 8.90 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบแตะระดับ 49.25 บาทต่อกิโลกรัม ถือเป็นราคาสูงสุดในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา จากราคาต้นปี 2564 อยู่เริ่มต้นที่ 6.91 บาทต่อกิโลกรัม
ปี 2565 สัญญาการซื้อขายน้ำมันปาล์มส่งมอบเดือนพ.ค. ในตลาดอนุพันธ์มาเลเซีย 6,622 ริงกิต/ตัน (1,583 ดอลลาร์ ) ปัจจุบันเป็นราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% นับจากต้นปีนี้
ส่วนราคาน้ำมันปาล์มดิบเริ่มต้นที่ 39.13 บาทต่อกิโลกรัม ณ ต้นปี 2564 มีระดับสต็อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือยกมาประมาณ 209,000 ตัน ซึ่งถือเป็นระดับสต็อกน้ำมันปาล์มดิบที่ต่ำ สุดในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา ในช่วงไตรมาสแรกผลผลิตยังคงออกมาน้อย
สถานการณ์น้ำมันปาล์มรุนแรงเมื่ออินโดนีเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลกประกาศระงับการส่งออกน้ำมันปาล์ม ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. 2565 เพื่อควบคุมราคาภายในประเทศ เกิดผลกระทบทันทีเพราะอินโดนีเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของโลกถึง 61 %
ขณะที่ข้อมูลกรมการค้าภายในประเทศไทยเป็นทั้งผู้ผลิตและส่งออก ซึ่งมียอดส่งออกเพียง 4 % ปี 2564 ส่วนใหญ่เป็นการใช้เพื่อบริโภค 1.25 ล้านตัน และผลิตไบโอดีเซล 1.14 ล้านตัน มีผลผลิตเป็นอันดับ 3 ของโลก รองอินโดนีเซีย อันดับ 1 และมาเลเซียอันดับ 2 มีพื้นที่ปลูกจำนวนมาก
ทางบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซียไซรัส ประเมินผลกระทบต่อผู้บริโภคทั่วโลก เนื่องจากน้้ามันปาล์มถือเป็นน้ำมันพืชที่มีการบริโภคมากที่สุดในโลก และมีการใช้ในการผลิตสินค้าหลายอย่าง เช่น บิสกิต มาร์การีน ช็อกโกแลต และน้ำยาซักผ้า ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียเคยประกาศระงับส่งออกน้้ามันปาล์มในเดือนม.ค. ก่อนที่จะยกเลิกประกาศดังกล่าวในเดือนมี.ค.
หลังอินโดนีเซียประกาศระงับการส่งออกท้าให้ราคาน้ำมันปาล์มปรับตัวขึ้น 9% ส่งผลบวกต่อผู้ผลิตน้้ามันปาล์มในไทยส่งผลให้ราคาขายและอัตราการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากประเทศไทยเป็นทั้งผู้ผลิตใช้ในประเทศและผู้ส่งออก
หุ้นที่ได้ประโยชน์ประกอบไปด้วย บริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือ CPI เป็นผู้ผลิตน้ำมันยี่ห้อ “ลีลา” เป็นผู้เพาะปลูกกว่า 20,000 ไร่ และสกัดน้ำมันปาล์ม ในกลุ่มจังหวัดชุมพรและจังหวัดใกล้เคียง
บริษัทสามารถสกัดน้ำมันปาล์ม ประมาณ 756,000 ตันต่อปี โรงกลั่นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ที่มีความต้องการน้ำมันปาล์มดิบประมาณ 180,000 ตันต่อปี และโรงงานสกัดน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบที่ต้องการเมล็ดในปาล์มประมาณ 36,000 ตันต่อปี ผลผลิตส่วนใหญ่รับซื้อจากเกษตรกรและ 87 % และจากสวนปาล์มของบริษัท 13 %
หุ้นน้ำมันปาล์ม บริษัท วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ VPO มีโรงงาน 2 แห่ง กำลังการผลิตรวม 180 ตันผลปาล์มต่อชั่วโมง ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ และมีธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งรายได้หลักบริษัทมาจากการขายน้ำมันปาล์มดิบและเมล็ดในปาล์ม 92 -95 %
ด้านผู้ประกอบการรายใหญ่อีกราย บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ LST มีสินค้าน้ำมันยี่ห้อ “หยก” และมีบริษัทลูก บริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือ UPOIC มีธุรกิจหลักกลุ่มปาล์มที่มีสัดส่วนรายได้ 80 % มีกำลังการผลิตของโรงกลั่น ที่ 700 ตันต่อวัน หรือ 255,500 ตันต่อปี
นอกจากน้ำมันพืชแล้ว LST ยังเป็นผู้ผลิตกลุ่มเนยเทียมและไขมันพืชผสม –กลุ่มเครื่องดื่ม- กลุ่มผักและผลไม้บรรจุกระป๋อง –ซอสและเครื่องปรุงรส และกลุ่มแป้งและส่วนผสมเบเกอรี่
สุดท้าย บริษัท ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือ UVAN โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ 5 แห่ง และโรงงานสกัดน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบ 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่จังหวัดกระบี่ พังงา และพัทลุง พื้นที่เพราะปลูกจำนวน 37,008 ไร่
โดย 5 โรงงาน มีกำลังการผลิตรวมกันเ 240 ตันปาล์มต่อชั่วโมง และบริษัทมีโรงงานบีบน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบ 2 โรง กำลังการผลิตรวมกันเท่ากับ 340 ตัน