ดัชนี MSCI ปรับรอบใหม่ BGRIM - STGT เป้าหมายถอดออก
ตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ภาวะตลาดหมี (Bear Market) หลังดัชนีปรับตัวติดลบรายวันจาก 1,700 จุด มีโอกาสหลุด 1,600 จุด หายวับเกือบ 100 จุด หรือลดลง 58 % ปัจจัยกระทบสภาพคล่องในสินทรัพย์เสี่ยงไปถือครองเงินดอลลาร์แทน รวมทั้งการปรับพอร์ตของสถาบัน และต่างชาติในช่วงนี้
ปัจจัยต่างประเทศที่กดดันอยู่ที่นโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่ยังทำให้นักลงทุนมองว่าต้องขึ้นดอกเบี้ยแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูงในรอบ 40 ปี อยู่ที่ 8.7 % เกิดการดึงเม็ดเงินออกจากตลาดอื่นที่ยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยขาขึ้นเช่น ไทย
ส่วนเงินที่ยังลงทุนอยู่จะมองหาการลงทุนที่ได้ประโยชน์จากปัจจัยในประเทศ ทั้งความคาดหวังการท่องเที่ยว การบริโภคฟื้นตัว เป็นต้น แต่ยังเป็นการ “เลือก” และ “ระมัดระวัง” การลงทุนมากขึ้น
ที่ผ่านมา มีโบรกเกอร์ต่างชาติ เจ.พี.มอร์แกน พึ่งปรับน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไทยลงจาก overweight (เพิ่มน้ำหนักการลงทุน) เป็น neutral (คงน้ำหนักการลงทุน) จากมุมมองอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเผชิญแรงต้านมากมายในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงทั่วโลก และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง ประกอบกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ซึ่งสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก ระบุว่าในปี 2562 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทำเงินให้กับเศรษฐกิจไทยประมาณ 380,600 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 11.8% ของจีดีพีของประเทศ และในปีเดียวกันนี้ หรือก่อนที่จะเกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวน 40 ล้านคน โดย 1 ใน 4 มาจากประเทศจีน
ปี 2565 ทางการไทยคาดการณ์ว่า จะมีนักเดินทางต่างชาติเข้ามาในประเทศราว 5-10 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากมาเลเซียและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้การปรับหุ้นในการคำนวณดัชนีหลักๆ ที่ใช้อ้างอิงในการลงทุนยังมีผลทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตลงทุน ซึ่งวันที่ 12 พ.ค.2565 ดัชนี MSCI ซึ่งเป็นดัชนีที่กองทุนขนาดใหญ่ทั้งใน และต่างประเทศใช้อ้างอิงลงทุนจะมีการประกาศหุ้นที่ใช้คำนวณดัชนีรอบใหม่
โดยตลาดหุ้นไทยจะทราบผลวันที่ 13 พ.ค.นี้ และจะมีผลในการคำนวณใหม่จากราคาปิดวันซื้อขาย 31 พ.ค. ดังนั้นจึงทำให้มีการเก็งหุ้นที่ได้รับผลดีจากประเด็นดังกล่าวเพราะจะมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาลงทุน และลดลงทุนในหุ้นที่ถูกปรับออกจากดัชนีเพราะคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลออกกดดันราคาหุ้นลงได้
ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน (ประเทศไทย) คาดการณ์ว่าการประกาศหุ้นเข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่ซึ่งจะมีผลราคาปิด 31 พ.ค. ในดัชนี MSCI Global Standard Index คาดว่ามี 2 บริษัท ได้แก่ JMT, COM7 โอกาสเข้าสูง
กรณีเข้าคำนวณจะถูกเพิ่มน้ำหนัก 76-80 ล้านดอลลาร์ต่อบริษัท ส่วน BANPU, JMT โอกาส เข้าปานกลาง ขณะหุ้นที่คาดถูกออกจากการคำนวณมี 2 บริษัท คือ BGRIM, STGT คิดเป็นเม็ดเงินลดลง 45 ล้านดอลลาร์ต่อบริษัท ประเด็นดังกล่าวแนะนำ ซื้อ JMT ราคาเป้าหมาย 100 และเก็งกำไร COM7 และ BANPU
ส่วน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ (ประเทศไทย) คาดว่า MSCI ทบทวนน้ำหนักลงทุนทุกรายไตรมาส ซึ่งจะประกาศในเดือนพ.ค.นี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่าหุ้นที่เข้าคำนวณรอบใหม่ JMT, COM7, TIDLOR, BANPU อาจได้เข้า MSCI Global Standard ส่วนที่มีสิทธิออก คือ BGRIM และ STGT
สอดคล้องกับ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ประเมินว่า มีที่เข้าคำนวณใหม่ JMT, COM7 ส่วนที่ถูกถอดออก BGRIM และ STGT ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กลุ่มหุ้นที่มีสิทธิเข้าคำนวณในรอบนี้มี 4 บริษัท JMT, COM7, TIDLOR, และ BANPU ส่วนที่ถูกถอดออก BGRIM และ STGT เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หลังการประกาศชื่อตลาดหุ้นมักจะรับข่าวก่อนที่จะมีการปรับราคา ณ วันสุดท้าย ซึ่งหากอิงกับการคาดการณ์หุ้นที่ถูกปรับออกราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หุ้น BGRIM ปิดที่ 29.75 บาท ลดลงจากปลายปี 2564 ประมาณ 24% ส่วนหุ้น STGT ราคาปิดที่ 19.30 บาท ลดลงจากปลายปี 2564 ประมาณ 33%
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์