‘นันยาง-บิ๊กซี’ คาดเปิดเทอม คึกคัก จัดทัพชุดนักเรียน รองเท้า ชิงกำลังซื้อ
เปิดเทอมใหม่พฤษภาคมปี 2565 การเรียนการสอนกลับสู่ภาวะปกติ หลังครู-นักเรียน ต้องสอน-เรียนผ่านออนไลน์ราว 2 ปี เพราะวิกฤติโควิด-19 ระบาด
เมื่อนักเรียนได้ไปโรงเรียน สินค้าที่เกี่ยวข้องจึงตบเท้าทำตลาดอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้านักเรียน รองเท้านักเรียนฯ อย่างเจ้าตลาด “นันยาง” ที่มีรองเท้าผ้าใบสำหรับนักเรียนชายหญิง ตั้งแต่อนุบาล ประถมศึกษา ไปจนถึงมัธยม วางแผนผลิตเพิ่ม
จักรพล จันทวิมล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เล่าความพร้อมของนันยางเพื่อรับมือการเปิดภาคเรียนที่โรงเรียนเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ซึ่งสำหรับรองเท้านักเรียน เมื่อเด็กเติบโตตามวัย ขนาดเท้าจะใหญ่ขึ้น รองเท้าคู่เดิมที่เคยใส่ไปโรงเรียนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว อาจไม่สามารถใส่ได้อีก โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก นักเรียนชั้นประถม ที่มีพัฒนาการร่างกายรวดเร็ว ซึ่งปกติเด็กจะเปลี่ยนขนาดรองเท้าใหญ่ขึ้น อย่างต่ำปีละ 1 เบอร์
ภาพรวมตลาดรองเท้านักเรียนก่อนโควิด-19 ระบาดมูลค่าอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท โดยหมวดรองเท้าผ้าใบ นันยางครองส่วนแบ่งราว 43% และปัจจัยการเปิดเทอม เด็กกลับไปโรงเรียนจะทำให้ตลาดคึกคักขึ้น
ปัจจุบัน นันยางมีกลุ่มผลิตภัณฑ์รองเท้าผ้าใบครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกวัย มีรองเท้าผ้าใบนักเรียนรุ่นยอดนิยม เช่น นันยาง รุ่น 205-S ครองใจผู้บริโภคกว่า 60 ปี นันยาง แฮฟ ฟันแบบไม่ต้องผูกเชือก เพิ่มความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสำหรับเด็กประถม ช่วยลดการสัมผัสเชื้อโรคถึง 10 เท่า นันยาง ซาฟารี จับกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย
อีกไฮไลท์คือ นันยาง ซุปเปอร์ สตาร์ รองเท้าผ้าใบราคาประหยัดที่ใช้กลยุทธ์ราคา ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ 199 บาท เพื่อตอบโจทย์และช่วยลดภาระผู้ปกครองในยุคที่กำลังเผชิญค่าครองชีพพุ่ง
“การประกาศให้มีการเรียนการสอนที่โรงเรียนตามปกติ ทำให้ผู้ปกครองต้องเตรียมความพร้อมของบุตรหลานในด้านต่างๆ โดยเฉพาะชุดนักเรียน รองเท้านักเรียน และอุปกรณ์การเรียนอื่นๆ ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะทำให้ตลาดรองเท้านักเรียนกลับมาคึกคักอีกครั้ง และคาดว่ากำลังซื้ออาจเพิ่มขึ้น 2 เท่า”
ชัยพัชร์ ซอโสตถิกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตรองเท้านันยาง กล่าวว่า บริษัทผลิตรองเท้าผ้าใบนันยาง เพื่อจับ 2 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มเด็กนักเรียนที่ต้องซื้อมักสินค้ารับช่วงเปิดภาคเรียน และกลุ่มประชาชนทั่วไปในทุกสายงานทุกอาชีพที่ชื่นชอบและต้องการใช้สินค้าตลอดทั้งปี
เมื่อรัฐมีนโยบายเปิดประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น รวมถึงการกลับมาเปิดเรียนได้ปกติ ผู้ประกอบการร้านค้า อุตสาหกรรมต่างๆ กลับมาดำเนินธุรกิจได้ ใกล้เคียงเดิม จะส่งผลให้ความต้องการรองเท้าผ้าใบในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น บริษัทในฐานะฝ่ายผลิตจึงวางแผนเพื่อรับมือกับความต้องการที่อาจสูงขึ้นแบบกระทันหัน
“นันยางวางแผนผลิตสินค้าเก็บสต็อกไว้ตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2”
นอกจากผู้ผลิตวางแผนรับดีมานด์เปิดเทอม ห้างค้าปลีก “บิ๊กซี” เดินหน้าจัดแคมเปญ “เปิดเทอมสนุกลดสนั่น” เตรียมสินค้ากว่า 10,000 รายการ มาลดราคา ลดภาระผู้ปกครอง ปฐพงศ์ เอี่ยมสุโร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กว่า 2 ปี ทำให้โรงเรียนต้องทำการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ แต่ปีนี้เทศกาลเปิดเทอมเดือนพฤษภาคม 2565 นักเรียนจะได้กลัยมาเรียนปกติ ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนขนาดของใช้จำเป็นทั้งชุดนักเรียน รองเท้า และอุปกรณ์การเรียน บิ๊กซี จึงออกแคมเปญการตลาดเพื่อช่วยผู้ปกครองดึงราคาสินค้าจำเป็นฟ่าวิกฤติและสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง
นอกจากนี้ เพื่อให้สอดคล้องนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ จึงนำสินค้า Back to School จาก 35 แบรนด์ชั้นนำมาจำหน่ายครบครันในที่เดียว เช่น รองเท้านักเรียนหญิงป๊อปทีน แคทช่า เบรกเกอร์ ชุดนักเรียนแบรนด์ ชัยพฤกษ์, ไก่คู่, น้อมจิตต์, แพนด้า, ตาชั่ง ชุดชั้นในเด็ก และถุงเท้า แบรนด์ รอสโซ่, เจเพรส, คาร์สัน และถึงเท้านักเรียนแฮปปี้ บาย คารืสัน(HAPPI)ฯ พร้อมชูราคาประหยัดเริ่มต้นเพียง 69 บาท
สำหรับ สินค้าBack to School ยังขยายช่องทางจำหน่ายหลายรูปแบบครอบคลุมออฟไลน์ ออนไลน์ เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้สะดวกรองรับวิถีชีวิตแบบใหม่หรือ นิวนอร์มอลด้วย ซึ่งจากการทำตลาดดังกล่าวบิ๊กซี ตั้งเป้ายอดขายเติบโตเกือบ 100% เทียบกับปีก่อน
"ผู้บริโภคมาช้อปที่ห้างบิ๊กซี มั่นใจ สะอาด ปลอดภัย ขณะเดียวกันเมื่ออยู่บ้านสามารถสั่งซื้อสินค้าจากบิ๊กซีผ่านช่องทางได้ง่ายๆ ทั้งไลน์มาช้อป หรือโทรมาช้อป รับเปิดเทอม"