ปตท.สผ. พร้อมเป็นผู้นำพาองค์กร-ประเทศสู้เป้า “เน็ต ซีโร่” ปี 2050
ปตท.สผ. ย้ำ พร้อมเป็นผู้นำพาองค์กรและประเทศมุ่งสู้เป้าหมาย “เน็ต ซีโร่” ปี 2050 ระบุ ธุรกิจต่อจากนี้จะต้องปล่อยก๊าซคาร์บอนให้น้อยที่สุดควบคู่กับการบริหารธุรกิจเดิมให้คุ้มค่า
นางนาถฤดี โฆสิตาภัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานงานสัมมนา ZERO CARBON : วิกฤติ–โอกาสไทยในเวทีโลก จัดโดย ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 11 พ.ค. 2565 ว่า ปตท.สผ. ถือเป็นบริษัทที่ดูแลในเรื่องของการสำรวจผลิตปิโตรเลียม หลักๆ ผลิตแก๊สธรรมชาติ และแก๊สธรรมชาติเหลวในอ่าวไทย ซึ่งการผลิตแก๊สฯ ดังกล่าว บริษัทฯ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นธุรกิจที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอน
ทั้งนี้ โมเดลการทำธุรกิจจะต้องทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ซึ่งได้ตั้งเป้าเน็ต ซีโร่ สอดคล้องและไปในทิศทางเดียวกับแนวทางบนเวที COP26 และแนวทางของรัฐบาลไทย โดยกำหนดการทำธุรกิจที่มุ่งสู่องค์กรคาร์บอนต่ำ เน้นลงทุนก๊าซธรรมชาติ นำปัจจัยเรื่องความเข้มของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาพิจารณาในการลงทุน และการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิต พร้อมเดินหน้ากระบวนการกักเก็บคาร์บอนด้วยการใช้เทคโนโลยี CCS ในอ่าวไทย และมาเลเซียควบคู่กัน จะช่วยลดได้ในปริมาณมาก พร้อมศึกษาโอกาสการนำคาร์บอนมาเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าเพื่ออนาคต
“จากนี้ไป โครงการใหม่ที่จะลงทุนจะต้องปล่อยก๊าซคาร์บอนให้น้อยที่สุด และจะต้องบริหารจัดการธุรกิจที่มีอยู่จะต้องใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ เทคโนโลยี CCS ดักเก็บคาร์บอน ไปพร้อมกับการช่วยผลิตแก๊สธรรมชาติเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ และการปลูกป่าบกและชายเลน หรือหญ้าทะเล ดูดซับก๊าซคาร์บอนได้กว่า 2 ล้านตันคาร์บอน ในปี 2050 นำองค์กรสู่เป้าหมายเน็ต ซีโร่ ปี 2050”
นางนาถฤดี กล่าวว่า สำหรับการลงทุนในเรื่องเทคโนโลยีดักจับ กักเก็บคาร์บอนและนำกลับมาใช้ประโยชน์นั้น บริษัทฯ จะต้องบริหารจัดการให้สมดุลโดยจะคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สังคม ผู้ถือหุ้น เป็นต้นเพราะการจะลดคาร์บอนต้องจัดหาเทคโนโลยีสมัยใหม่ และยอมรับว่าตอนนี้มีราคาแพงมาก อีกหน่อยราคาจะลดลง ดังนั้น ในช่วงนี้ การขอสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐออกนโยบายคาร์บอนเครดิต และออกวิธีการต่างๆ จะช่วยได้เยอะ อาทิ โครงการสมัครใจเน็ตซีโร่ จะช่วยการดำเนินธุรกิจของทุกผู้ประกอบการ เป็นต้น