TOP ไตรมาส 1/65 กำไรแตะ 7,183 ล้านบาท พุ่ง 113.77% รับอานิสงส์ราคาน้ำมันพุ่ง
กลุ่มไทยออยล์ ไตรมาส 1/65 มีกำไรสุทธิ 7,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.77% และมีรายได้จากการขาย 114,506 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น55.89 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน รับอานิสงส์ราคาน้ำมันดิบพุ่งจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน ดันกำไรจากสต๊อกน้ำมัน
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2565 กลุ่มไทยออยล์มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มรวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมัน(Accounting GIM) อยู่ที่ 23.6 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และด้วยปริมาณวัดถุดิบที่ป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตของกลุ่มไทยออยล์อยู่ที่ 303 พันบาร์เรลต่อวัน
ทำให้กลุ่มไทยออยล์มีรายได้จากการขายและ EBITDA จำนวน 114.506
ล้านบาท และ 13,034 ล้านบาท ตามลำดับ เมื่อหักค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ต้นทุนทางการเงิน ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ และการกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ ทำให้ไตรมาส 1 ปี 2565 กลุ่มไทยออยล์มีกำไรสุทธิ 7,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.77% จากช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็นกำไรสุทธิ3.52 บาทต่อหุ้น
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 กลุ่มไทยออยล์มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 398,583 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน36,439 ล้านบาท
สาเหตุหลักจากสินทรัพย์หมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น เนื่องจากสิบค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น ดามราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในเดือนมีนาคม 2565 ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564
สำหรับหนี้สินรวมของกลุ่มไทยออยล์ปรับเพิ่มขึ้น29,963 ล้านบาท จากสิ้นปีก่อน มาอยู่ที่ 269,013 สัานบาท เนื่องจากหนี้สินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบเฉสี่ยในเดือนมีนาคม 2565 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2564 ในส่วนของกลุ่มไทยออยล์ มียอดรวมทั้งสิ้น 129,571 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 6.477 ล้านบาทจากสิ้นปีก่อน จากผลกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2565 ที่ปรับเพิ่มขึ้น
โดยกลุ่มไทยออยล์มีรายได้จากการขาย 114,506 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น55.89 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากระดับราคาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาขายเฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวรวมถึง ความกังวลต่อสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน
และจากกำไรขั้นต้นจากการกลั่นที่เพิ่มขึ้นจากจากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ ปรับตัวดีขึ้นจากอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้นหลังหลายประเทศประกาศผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองและการเดินทางระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบได้แรงหนุน จากสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้กลุ่มไทยออยล์มีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 14,472 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,763 ล้านบาท