“ปตท.”ผนึก“ซาอุดี อารัมโก” เคลื่อนนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า
“ซาอุดี อารัมโก” คอร์ปอเรทรั้งแชมป์มูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก 2.43 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจัยราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง และเป็นบริษัทพลังงานและเคมีภัณฑ์ระดับโลกแบบครบวงจรที่จะขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตสร้างสมดุลด้านทรัพยากรในทั่วโลกอย่างยั่งยืน
สอดคล้องกับจากวิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้จัดเตรียมงบลงทุนในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ในระยะ5ปี (พ.ศ.2565-2569) ที่ 238,032ล้านบาท
โดยมุ่งเน้นธุรกิจพลังงานสะอาด อาทิ ลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียน วางเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 12,000 เมกะวัตต์ ภายในปี2573 ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทลูก คือบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จํากัด (มหาชน) หรือ GPSC ลงทุนธุรกิจในด้าน EV Value Chainรองรับการขยายฐานธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมและสร้าง EV Ecosystem ที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแพร่หลายในประเทศไทย อาทิ พัฒนาภาคการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ขยายเครือข่ายสถานีเครื่องอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) และให้บริการด้านดิจิทัลแพลตฟอร์มเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น โดยดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทลูก คือ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS)
นอกจากนี้ ยังขยายการลงทุนในธุรกิจอื่นนอกเหนือจากพลังงาน อาทิ ธุรกิจ Life science (ยาNutrition อุปกรณ์และการวินิจฉัยทางการแพทย์) ผ่านบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (อินโนบิก) เพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน และยังมีธุรกิจโลจิสติกส์ และโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น
ล่าสุด ปทต.และ บริษัท ซาอุดี อารัมโก ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านพลังงาน ซึ่งมีสาระสำคัญว่าด้วยการซัพพลายและค้าน้ำมันดิบ ปิโตรเคมีรวมถึงก๊าซแอลเอ็นจี ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบที่มีความเป็นไปได้ที่แตกต่างเพื่อผลิตพลังงานสะอาดที่จำกัดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งหมายถึงยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยซึ่งความร่วมมือนี้มีตั้งแต่ ต้นน้ำถึงปลายน้ำจนครบระบบนิเวศที่จำเป็นต่อเป้าหมายทั้งพลังงานสะอาดและอีวีให้สมบูรณ์แบบสูงสุด
ดิษทัต ปันยารชุน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ปตท. กล่าวว่า ปตท. และ ซาอุดี อารัมโก ได้ร่วมมือทางธุรกิจในการซื้อขายน้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาอย่างยาวนาน ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังเป็นโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์และการเติบโตทางธุรกิจร่วมกัน รวมถึงธุรกิจพลังงานสะอาด สอดคล้องวิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต อีกด้วย
ในส่วนความร่วมมือด้านหนึ่งที่น่าสนใจจากMOUนี้ คือ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่พบว่า ซาอุดี อารัมโก ได้ร่วมมือกับกลุ่มฮุนได มอเตอร์ เพื่อค้นคว้าและพัฒนาความก้าวหน้าด้านพลังงานเครื่องยนต์ที่มุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนต่ำ ทั้งนี้การวิจัยและพัฒนาดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อก้าวข้ามไปสู่เทคโนโลยนีที่ลดการปล่อยก๊าซและปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงาน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างหุ้นส่วนกับผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลก
เอกชัย ยิ้มสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. และกรรมการผู้จัดการ อรุณ พลัส จำกัด กล่าวว่า กลุ่มปตท. ได้เน้นดำเนินธุรกิจโดยร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งเพื่อพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ล่าสุด อรุณ พลัส ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ Contemporary Amperex Technology Co., Limited (CATL) ผู้นำด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมพลังงานสะอาดเพื่อศึกษาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ในภูมิภาคอาเซียน
คาดว่าจะสามารถผลิตแบตเตอรี่ป้อนให้กับโรงงานของ Horizon Plus บริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่ม ปตท. โดย อรุณ พลัส และ ฟ็อกซ์คอนน์ เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจรได้ภายในปี 2567
ความร่วมมือกับคอปอร์เรทระดับโลก อาจเป็นทางลัดให้เป้าหมายประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น แต่ก็เป็นอีกความท้าทายที่จะต้องเร่งปรับตัวเพื่อทำงานร่วมกับธุรกิจระดับโลกอย่าง ซาอุดี อารัมโก ให้ได้