CHG - งานเลี้ยงกำลังจะเลิกลา (19 พ.ค. 2565)
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่และผู้เสียชีวิตรายวันลดลงอย่างรวดเร็วจะหนุนให้รัฐบาลประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่นเร็วๆนี้ ซึ่งหมายถึงอุปสงค์บริการเกี่ยวกับโควิดจะลดลง ปรับประมาณการปี FY22F ขึ้น 125% เป็น 2.9 พันลบ.เพื่อสะท้อนผลประกอบการที่ดีกว่าคาดใน 1Q
อย่างไรก็ตาม กำไรจะลดลงในไตรมาสที่เหลือของปี เราคงคำแนะนำ ถือ เราอาจเปลี่ยนมุมมองเป็นบวกหากกำไรของหุ้นผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และ/หรือตลาดรับรู้ปัจจัยลบหมดแล้ว
รัฐบาลอาจจะประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่นเร็วกว่าคาด
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่บริเวณใกล้เคียงรพ.จุฬารัตน์ลดลงเหลือเพียง 381 ราย ณ วันที่ 18 พ.ค. จากยอดสูงสุด 4,194 ราย ณ วันที่ 2 เม.ย. จำนวนวันกักตัวปรับลดลงและจำนวนผู้ป่วยลดลงเนื่องจากอาการไม่รุนแรง อัตราผู้เสียชีวิต 0.36% ของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด กระทรวงสาธารณสุข จะปรับระดับมาตรการควบคุมการระบาดของโควิดเป็นระดับ 3 (จาก 4) ภายในสิ้นพ.ค. และอสขะประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่นภายในกลางเดือนมิ.ย. เร็วกว่าประมาณการเดิม 1 ก.ค.
รายได้จะลดลง
อุปสงค์บริการเกี่ยวกับโควิดจะลดลงตามจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่ลดลงอย่างรวดเร็ว, มาตรการ UCEPCOVID+ (ตั้งแต่ 16 มี.ค.) และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาด (ยกเว้นการตรวจ RT-PCR/ATK สำหรับผู้ป่วยสีเขียวของสปสช. และมาตรการ Test&Go สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ) การลดระยะกักตัวที่บ้านเป็น 5 วันจาก 7 วัน และการลดราคาค่ารักษาโควิดของสปสช. ดังนั้นรายได้/ราย และระยะเวลาครองเตียงเฉลี่ยจะลดลง ทั้งหมดนี้จะทำให้อัตราการทำกำไรของ CHG ลดลง การดำเนินงานของ CHG เริ่มอ่อนแอลงในเม.ย.-พ.ค. ได้แก่จำนวนผู้ป่วยกักตัวที่บ้าน, การตรวจโควิดและผู้ป่วยในโควิดลดลง รายได้ฉีดวัคซีนโมเดอร์นา 220,000 เข็ม (จองหมดแล้ว) จะเป็นปัจจัยสนับสนุนรายได้ใน 2Q-3Q แต่ไม่สามารถชดเชยรายได้รักษาโควิดที่ลดลง
ปรับประมาณการ; คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 3.9 บาท
ผลประกอบการที่ดีกว่าคาดใน 1Q ทำให้เราปรับประมาณการขึ้น 125% เป็น 2.9 พันลบ.ปีนี้ แต่คงประมาณการปี FY23F ดังนั้นกำไรปี FY22F จะลดลง 30% และปี FY23F จะลดลง 55% นอกจากนี้กำไรมีแนวโน้มลดลง qoq ในช่วงที่เหลือของปี