มิวซิกมูฟ ตีโจทย์ธุรกิจเพลงใหม่ ยึดหลักยืน 2 ขา เสริมแกร่ง กระจายเสี่ยง
โควิด-19 มอบ "บทเรียน" ใหญ่ให้ธุรกิจ ไม่เว้นกระทั่งธุรกิจเพลง ที่ต้องกระจายความเสี่ยง การยืนขาเดียว พึ่งโขว์บิส งานแสดง คอนเสิร์ตของศิลปินที่โกยรายได้เป็นกอบเป็นกำ ต้องตีโจทย์ใหม่ หาทางยืน 2 ขา เสริมแกร่ง เพื่อรอดท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายยิ่งขึ้น
วิกฤติโควิด-19 กระทบธุรกิจเป็นโดมิโน่ แทบพังพาบราบเป็นหน้ากลอง และ “เพลง” ที่ผู้คนเสพความบันเทิงง่ายสุด ยังเลี่ยงไม่พ้น เพราะธุรกิจเพลงไม่ได้ตีวงแคบแค่ฟังเพลงที่ชอบผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ แต่ผู้ประกอบการต้องพึ่งพิงงานโชว์บิส คอนเสิร์ต อีเวนท์ ฯ กิจกรรมออนกราวด์สารพัด เพื่อทำเงิน
แม้เจอผลกระทบ อีกมุมไวรัสร้าย ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวขนานใหญ่ ดนุภพ กมล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิวซิกมูฟ จำกัด ผู้บริหารรุ่นใหม่ เคลื่อนธุรกิจเพลงในห้วงที่พายุดิจิทัล ถาโถมอย่างหนัก ทั้งเพลง ศิลปิน ต้องปรับกระบวนท่าให้อยู่รอดแล้ว เกือบ 3 ปี เผชิญโจทย์โหดอย่างโควิด เป็นบทเรียนหนักยิ่งกว่าเดิม จนต้องวางยุทธศาสตร์กันใหม่ เพื่อสร้างความแกร่ง และกระจายความเสี่ยงให้ได้
“โควิดเป็นวิกฤติใหญ่สุดที่เจอ และให้บทเรียนสำคัญว่าการยืนสองขา แข็งแรงกว่าขาเดียว”
เดิมรายได้ “มิวซิกมูฟ” 80% มาจากการแสดงคอนเสิร์ต โชว์บิส โดยที่ผ่านมา จำนวนงานจ้างแสดงสดศิลปิน MuzikMove มีมากมาย เช่น ปี 2562 - 1400 งาน (ปกติ)
ปี 2563 - 800 งาน (โควิดเริ่มกระทบในเดือนเม.ย.63)และปี 2564 - 450 งาน เรียกว่าการพึ่งพาอีเวนท์เหล่านี้เป็นเช่นเดียวกับค่ายเพลงอื่นๆ และคือความหวังเม็ดเงินจากปลายน้ำ เมื่อศิลปิน นักร้องโด่งดังเป็นที่รู้จัก จะเดินสายเล่นคอนเสิร์ตทั่วประเทศ ชนิดที่ตารางงานแน่นเอี๊ยด นั่นคือภาพรายได้ “ขาเดียว”
เมื่อขาข้างที่แกร่งยืนหยัดไม่ได้ อยู่ๆล้มลงเพราะโรคระบาด งานแสดงจัดไม่ได้ ผู้คนห้ามรวมตัวกัน จึงตั้งโจทย์การทำงานจากนี้ไป ทุกหน่วยธุรกิจต้องมี “ออนไลน์” เป็นจิ๊กซอว์สำคัญสร้างการเติบโตใหม่หรือ New S-Curve รวมถึงรองรับความเสี่ยงสารพัดแบบ เช่น รัฐออกมาตรการห้ามจัดคอนเสิร์ต บริษัทต้องพร้อมเปลี่ยนไปลุยโปรเจคออนไลน์ทันที
ผลงานที่ได้สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อให้ธุรกิจไปต่อ เช่น พัฒนาไอเดียร่วมกับพันธมิตรจัดงานแสดงคอนเสิร์ตเล็กๆอบอุ่นด้วยเพลงอะคูสติกพร้อมตั้งแคมป์ การจับมือกับโรงแรมลุยโปรเจคโฮเทลเฟส ไฮบริด ใช้พื้นที่โล่งแสดงคอนเสิร์ต สั่งอาหารมาทานได้ พร้อมถ่ายทอดผ่านออนไลน์ ฯ ผลลัพธ์คือกอดคอกันรอดในช่วงยากลำบาก
อีกไฮไลท์ที่สร้างจุดเปลี่ยนให้ธุรกิจเพลง คือการลุยการตลาดเชิงดนตรีหรือ Music Marketing โดยมี Mad Monster Agency เคลื่อนทัพผลักดันศิลปินให้มีส่วนร่วมกับแบรนด์สินค้าต่างๆ เพื่อทำแคมเปญการตลาด
สำหรับหมวดหมู่สินค้าที่บริษัทเจาะได้ แน่นอนในเครือสิงห์ ไม่ว่าเป็นผลิตภัณฑ์สิงห์ ลีโอ ส่วนนอกเครือ มีหลากหลายหมวด เช่น รถจักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องดื่ม ธนาคาร ฯ ซึ่งศิลปินจะช่วยสร้าางการรับรู้แบรนด์ กระตุ้นให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายสนใจแบรนด์ สร้างเอ็นเกจเมนต์ เป็นต้น
ระยะสั้นพลิกทุกศาสตร์สู้เพื่อรอด แต่ ดนุภพ ไม่ละเลยเข็มทิศเคลื่อนธุรกิจรับอนาคต ซึ่งบริษัทเริ่มเข้าสู่โลกเสมือนจริงหรือ Metaverse เชื่อมโลกกายภาพ ซึ่งพร้อมผนึก “ฟู้ด แฟคเตอร์” ธุรกิจอาหารของกลุ่มสิงห์ ทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการเกาะเทรนด์สินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง “NFT” หรือ Non-Fungible Token ต่อยอดธุรกิจเพลง ศิลปิน ซึ่งเป็นสินทรัพย์สำคัญ ดังนั้นพันธมิตร บิทคับ ซิปเม็กซ์ ป๊อบคอยน์ ฯ จึงร่วมมือเต็มสูบ
“มิวซิกมูฟค่อยๆสร้างอีโคซิสเทมด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ปูพื้นฐาน ทำระบบหลังบ้านให้แกร่งและพร้อม เพราะเชื่อว่าเทรนด์ดังกล่าวมีบทบาทต่อธุรกิจเพลงในอนาคต”
ส่วนแนวโน้มธุรกิจเพลงปี 2565 บริษัทคาดการณ์ฟื้นตัวขึ้น จากปัจจัยบวกการเปิดประเทศ รัฐเตรียมประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น บริษัทจึงเตรียมลุยโชว์บิส จัดคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบ มีไฮไลท์ เช่น Move on จนโคจรมาเจอกัน ดึง 3 ศิลปินทั้งอิ้งค์ วรันธร-นนท์ ธนนท์-เดอะ ทอยส์ มาอยู่บนเวทีเดีวกันวันที่ 4-5 มิ.ย. และ Happy Boxx Day คอนเซปต์ The School of Boxx วันที่ 9 ก.ค.2565 เป็นต้น
ธุรกิจเพลงส่งสัญญาณบวก แต่ปัจจัยที่ต้องระวังคือความไม่แน่นอน สงคราม ภาวะเงินเฟ้อ ฯ ทำให้อำนาจซื้อผู้บริโภค เงินในระบบเศรษฐกิจลดลง การแข่งขันจึงสูงขึ้นเพื่อแย่งเค้กก้อนเดิม
อย่างไรก็ตาม หลังโควิดคลี่คลาย ดนุภพ มองความท้าทายธุรกิจเพลง ต้อง “ทันสถานการณ์ ทันเทรนด์ ทันคนฟัง”
ทันสถานการณ์ คือต้องยืดหยุ่น พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงรอบด้าน เนื่องจากอนาคตเดายากจะเกิดอะไรขึ้น ทันเทรนด์ โลกของเพลงไม่เหมือนเดิม พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน แพลตฟอร์มฟังเพลงมากขึ้น วิดีโอสั้นมาแรง ต้องเกาะติดไม่ตกขบวน และทันคนฟัง ศิลปินต้องปรับ สร้างคอนเทนท์ ตอบโจทย์ผู้ฟัง และใช้แพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ให้หลากหลาย เป็นต้น
“โควิดพิสูจน์การบริหารธุรกิจเป็นยุคปลาเร็วกินปลาช้า ท่ามกลางตลาดที่มีเงินน้อย การแข่งขันสูง ใครช้าย่อมลำบาก..เราต้องเร็ว”
จากแผนดังกล่าว บริษัทคาดว่าภาพรวมธุรกิจจะมีรายได้ฟื้นตัว 85-90% และปีหน้าจะฟื้นตัวเต็มร้อย