"สินมั่นคง" เร่งหาทางเคลียร์หนี้เคลมโควิด คาดกลับมาจ่ายมิ.ย.66
"สินมั่นคง" เผย อยู่ระหว่างหาแนวทางจ่ายเคลมประกันโควิด 3 หมื่นล้าน คาด มิ.ย. 66 กลับมาจ่าย หากศาลเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ ไตรมาส1/65ขาดทุน 2.94หมื่นล้าน จ่ายสินไหมโควิดแล้ว 2.3 หมื่นล้าน
นายเรืองเดช ดุษฎีสุรพจน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK เปิดเผยว่า บริษัทคาดจะเริ่มจ่ายเคลมสินไหมประกันโควิดได้ หลังจากศาลเห็นชอบ แผนฟื้นฟูกิจการ คาดว่าจะเป็นประมาณเดือนมิ.ย. 2566 ซึ่งประมาณเดือนนี้ศาลจะส่งคำร้องขอฟื้นฟูกิจการให้กับเจ้าหนี้ของบริษัท
โดยแนวทางการจ่ายชำระหนี้ที่อยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการ จะต้องมีการเจรจากันระหว่างเจ้าหนี้กับบริษัท โดยบริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหาแนวทางการชำระหนี้ที่เร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้ และจะต้องได้เข้าแผนฟื้นฟู
สำหรับไตรมาส 1 ปี 2565 บริษัทขาดทุน 29,421.37 ล้านบาท ลดลง 16,794.48% จาก ช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 176.23 ล้านบาท เนื่องจาก มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 31,624.92 ล้านบาท แบ่งเป็น การจ่ายค่าสินไหมทดแทนอยู่ที่ 23,260.74 ล้านบาท เพราะจำนวนผู้ติดเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และค่าสินไหมทดแทนประเภทอื่นๆ 1,311.03 ล้านบาท
รวมถึงมีการสำรองความเสี่ยงที่ยังไม่สิ้นสุดในไตรมาส1ปี 2565 จำนวน 6,374.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น100% เพราะการสำรองเบี้ยประกันภัยไม่เพียงพอค่าสินไหมทดแทนโควิด จึงต้องตั้งสำรองความเสี่ยงภัยที่ยังไม่สินสุดเพิ่มเติม
ส่วนกรณีที่ผู้สอบบัญชีไม่แสดงข้อมูลสรุปต่องบการเงินไตรมาส1ปี 2565 เนื่องจากความไม่แน่นอนของประมาณการหนี้สินจากสัญญาประกันภัยของกรมธรรม์โควิด โดย ณ วันที่ 31 มี.ค. 2565 บริษัทได้ประมาณการหนี้สินจากประกันภัยจำนวน 35,146 ล้านบาท และยังมีข้อมูลความอ่อนไหวของความเสี่ยงที่ยังไม่สิ้นสุดของกรมธรรม์ที่คุ้มครองโควิดที่ระยะเวลาคุ้มครองส่วนใหญ่สิ้นสุดในเดือนเม.ย. 2565
โดย ณ สิ้นสุด ไตรมาส1ปี 2565 บริษัทมีหนี้สินสูงกว่าทรัพย์สิน(ส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ) 27,226 ล้านบาท ทำให้สำรองเงินกองทุนของบริษัทลดลงและต่ำกว่าเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามความเสี่ยง และบริษัทประสบปัญหาสภาพคล่อง และบริษัทอยู่ระหว่างจัดทำแผนการเพิ่มทุนของบริษัทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากแผนการเพิ่มทุนและการแก้ปัญหาหนี้สินยังไม่แล้วเสร็จ