KBANK ทุ่ม 7.5 พันล้านบาท ซื้อหุ้น 'ธนาคารแมสเปี้ยน' อินโดฯ เป็น 67.5%
KBANK ทุ่ม งบกว่า 7.55 พันล้านบาท เข้าถือหุ้นเพิ่มในธนาคาร "แมสเปี้ยน" อินโดนีเซีย ไม่น้อยกว่า 67.5% คาดการซื้อขายแล้วเสร็จปีนี้ ตอกย้ำการเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 ลุยพัฒนาดิจิทัลแบงกิ้ง จับกลุ่มลูกค้าท้องถิ่น และเชื่อมโยงเครือข่ายบริการการค้าการลงทุนใน CCLMV
ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2565 บริษัท กสิกรวิชั่น ไฟแนนเชียล จำกัด (KVF) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นแบบมีเงื่อนไข เพื่อเข้าถือหุ้นรายใหญ่ในธนาคารแมสเปี้ยน (PT Bank Maspion Indonesia Tbk) ในวงเงินลงทุนไม่เกิน 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7,556 ล้านบาท
หลังธุรกรรมดังกล่าว ธนาคาร และ KVF จะเข้าถือหุ้นรวมกันในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 67.5% โดยการซื้อขายหุ้นจะแล้วเสร็จหลังได้รับอนุมัติจากหน่วยงานทางการที่เกี่ยวข้อง คาดภายในสิ้นปี 2565
อนึ่ง เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2563 KFV ได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นธนาคารแมสเปี้ยน เพื่อถือหุ้น 40% ซึ่งสูงสุดตามที่สำนักงานกำกับดูแลธุรกิจการเงินของอินโดนีเซีย (Otoritas Jasa Keuangan หรือ OJK) อนุญาตให้ถือครองหุ้นธนาคารในอินโดนีเซียโดยผู้ถือหุ้นที่เป็นธนาคารพาณิชย์ เป็นการเพิ่มสัดส่วนจากเดิมที่ธนาคาร มีอยู่ 9.99% ตั้งแต่ปี 2560
ก่อนหน้านี้ นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และประธานกรรมการ บริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (KVision) ได้เคยเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563 บริษัท กสิกร วิชั่น ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นธนาคารแมสเปี้ยน (PT Bank Maspion Indonesia Tbk) ประเทศอินโดนีเซีย มีสัดส่วนการถือหุ้น 40% ซึ่งสูงสุดตามที่สำนักงานกำกับดูแลธุรกิจการเงินของอินโดนีเซีย (Otoritas Jasa Keuangan หรือ OJK) อนุญาตให้ถือครองหุ้นธนาคารในอินโดนีเซียโดยผู้ถือหุ้นที่เป็นธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้เป็นการเพิ่มสัดส่วนจากเดิมที่ธนาคารกสิกรไทยมีอยู่ 9.99% ตั้งแต่ปี 2560
ทั้งนี้ การเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นใน ธนาคารแมสเปี้ยน ถือเป็นทางเลือกของการเข้าไปลงทุนที่คุ้มค่า ต่างจากการที่ต้องเข้าไปลงทุนเองใหม่ทั้งหมด ธนาคารแมสเปี้ยนเป็นธนาคารขนาดเล็ก มีเครือข่ายสาขาครอบคลุมครบทุกเมืองสำคัญ และเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งสามารถต่อยอดความสัมพันธ์ทางธุรกิจหลากหลายในทุกกลุ่มลูกค้า รวมทั้งผู้บริหารธนาคารมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของธนาคารกสิกรไทย
นอกจากนี้ ตั้งแต่ธนาคารกสิกรไทยได้เข้าไปศึกษา และร่วมทำงานกับทีมงานของธนาคารแมสเปี้ยนเป็นเวลากว่า 2 ปี ทำให้เราเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่มากมายในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ยังเติบโตและมีอนาคตสดใสในอาเซียน สามารถใช้ความเชี่ยวชาญทางผลิตภัณฑ์ และบริการของธนาคาร รวมถึงการใช้รูปแบบทำธุรกิจที่เป็น Asset-Light และการลงทุนพัฒนาดิจิทัล แบงกิ้ง ตามแนวโน้มพฤติกรรมของลูกค้าในอินโดนีเซียที่จะทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นการผนึกกำลังร่วมกันครั้งสำคัญ เพื่อนำจุดแข็งของสองธนาคารไปต่อยอดพัฒนาบริการในประเทศอินโดนีเซีย โดยจะใช้กลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการตามกลุ่มลูกค้าดังต่อไปนี้
กลุ่มธุรกิจบรรษัทขนาดใหญ่ สนับสนุนธุรกิจขนาดใหญ่ของไทย และต่างชาติที่ลงทุนในอินโดนีเซียรวมถึงกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ในอินโดนีเซีย ด้วยผลิตภัณฑ์ และบริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งสินเชื่อ และบริการ การจัดการทางการเงิน รวมทั้งพัฒนาช่องทางอินเทอร์เน็ต แบงกิ้ง และผลิตภัณฑ์ Payroll เพื่อเพิ่มความสะดวกและหลากหลายในการใช้บริการของลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัล
กลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี มุ่งเน้นการให้สินเชื่อให้กับกลุ่มลูกค้าขนาดกลางและย่อมโดยใช้ Data Lending และ Formula Lending Model เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการปล่อยสินเชื่อ รวมทั้งขยายธุรกิจร้านค้ารับบัตร (Acquiring Business) เพื่อรองรับการชำระเงินแบบ Non-Cash Payment
กลุ่มลูกค้าบุคคล นำนวัตกรรมมาปรับปรุงระบบโมบายแบงกิ้งที่มีให้ดียิ่งขึ้น และผลักดันสินเชื่อมีหลักประกัน เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล รวมถึงพัฒนา Data Analytic Lending Platform โดยใช้ Data จากธุรกิจร้านค้ารับบัตร
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์