SET อาจชะลอตัวบริเวณแนวต้าน 1,655-1,660 จุด

โดยมีประเทศที่ได้รับการยกเว้นคือ ฮังการี, สาธารณรัฐเชก และสโลวาเกีย ที่ยังสามารถซื้อน้ำมันรัสเซียจากท่อส่ง Druzhba ได้ (ทั้ง 3 ประเทศไม่ติดทะเล)  นอกจากนี้ ผู้นำ EU ได้ลงมติเห็นชอบให้ตัดธนาคารสเบอร์แบงก์ (Sberbank) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ออกจากระบบธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศ (SWIFT), ระงับการดำเนินงานของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ของรัฐบาลรัสเซียอีก 3 แห่ง และคว่ำบาตรบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสงครามในยูเครน// ภาพรวมกลุ่มพลังงานเรามอง trading PTTEP ขณะที่เพิ่มความระวังกลุ่มโรงกลั่นที่ผลประกอบการน่าจะสูงสุดในช่วงไตรมาส 2/65 และมอง OR เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนมากที่สุด 

กลุ่มขนส่งคาดได้แรงหนุนจากเซี่ยงไฮ้ประกาศยุติมาตรการล็อคดาวน์ 1 มิ.ย. หลังจากปิดเมืองมาประมาณ 2 เดือน โดยจะอนุญาตให้สามารถใช้รถยนต์ รถแท็กซี่ รวมถึงรถประจำทาง รถไฟและเรือข้ามฟากจะกลับมาให้บริการ โดยเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ประกาศมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและช่วยเหลือภาคธุรกิตที่ได้รับผลกระทบ และมาตรการกระตุ้นการบริโภคมีผลถึงสิ้นปี 2565 แม้ราคาน้ำมันที่สูงจะเป็นความเสี่ยงต่อผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี แต่ในระยะสั้นคาดหุ้นกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ จะตอบรับเชิงบวกต่อการกลับมาเปิดเมืองซึ่งบวกต่อหุ้นอย่าง WICE, LEO, NCL, MOONG เป็นต้น (เก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุนในช่วง 2-3 สัปดาห์เท่านั้น) 

 

 

อาจผันผวนจากการ rebalance ของ MSCI วันนี้ดัชนี MSCI ปรับพอร์ตมีผลสิ้นวัน ทำให้การซื้อขายช่วงปลายตลาดมีโอกาสผันผวน ผู้ลงทุนที่มีสถานะในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าควรเพิ่มความระวัง ขณะที่ตลาดหุ้นในเอเชียหลายตลาดอาจผันผวน เนื่องจากการปรับเพิ่มหรือลดน้ำหนักการลงทุนในรายประเทศ สำหรับหุ้นไทย MSCI Global Standard มีหุ้นเข้าคือ JMT และหุ้นออกคือ STGT / MSCI Small Cap หุ้นเข้า ASK, BYD, DITTO, FORTH, KEX, PSG, SABUY, STGT (ถูกปรับลงจากดัชนีใหญ่), STARK, VIBHA หุ้นออก EASTW, JMT (ถูกปรับเข้าดัชนีใหญ่)  

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE 2) กลุ่มท่องเที่ยว CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO 4) หุ้นกลุ่มที่ปรับลดลงมามาก หรือเก็งราคาน้ำมันลง SCGP, BJC, EPG, SCC, BGRIM, GPSC 5) หุ้นเด่นกลุ่มพลังงาน OR 6) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, GFPT, TFG, TU, KSL, KTIS, KBS 7) กลุ่มขนส่ง WICE, LEO, NCL, MOONG และ 8) กลุ่มการเงิน MTC, SAWAD, TIDLOR, KCAR, THANI, TSR

ภาพรวมกลยุทธ์: SET มีโอกาสชะลอตัวบริเวณแนวต้าน 1,655-1,660 จุด การเก็งกำไรระยะสั้นเน้นหุ้นที่ปรับลดลงมากหรือยังขึ้นน้อยมีโอกาสฟื้นตัวได้ดี (การเงิน, อาหาร, ขนส่ง) ขณะที่การลงทุนเน้นในหุ้นใหญ่พื้นฐานดีที่ valuation ไม่แพงหรือกระแสเงินสดสูงที่สามารถจำกัด downside risk ได้เป็นหลัก โดยใช้จังหวะปรับลดลงแรงในการทยอยซื้อหรือสะสมรายตัว //หุ้นแนะนำ:  BIS*, NCL*, THANI*, BFIT*

แนวรับ: 1,643 / แนวต้าน : 1,655-1,660 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

ประเด็นการลงทุน

EU ลงมติระงับนำเข้าน้ำมันบางส่วนจากรัสเซีย - ระงับในสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 เพื่อตัดแหล่งการเงินขนาดใหญ่ที่รัสเซียใช้เป็นเครื่องมือในการทำสงคราม

ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจยุโรปเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด - ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 105.0 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 104.9 ในเดือนเม.ย. ขณะที่คาดจะอยู่ที่ 104.9

จีนเผยผลสำรวจนลท.ต่างชาติมั่นใจเศรษฐกิจยังโตได้ - ผลสำรวจโดย CCPIT ระบุว่า กลุ่มบริษัทซึ่งลงทุนโดยต่างชาติ (FIE) มีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับโอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนาอย่างมีคุณภาพของจีน หากเทียบกับไตรมาสที่ 4/2564 ผู้ประกอบการกว่า 71% ยังคงรักษาขนาดธุรกิจเอาไว้ได้ในไตรมาสแรก ขณะที่ธุรกิจอีก 16.4% มีการขยายตัวขึ้น

ทอท.คาดผู้โดยสารเข้าไทย 7 หมื่นคนต่อวัน - คาดยอดปีนี้ 22 ล้านคน หลังรัฐผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศ 1 มิ.ย.นี้ 

ครม. รับทราบหนี้สาธารณะสิ้นมี.ค. 60.58% ของ GDP - ยังอยู่ภายใต้พ.ร.บ.วินัยการเงินฯ ไม่เกิน 70%

KBANK ซื้อแบงก์แมสเปี้ยน อินโดนีเซีย ถือหุ้น 67.50% - เงินลงทุน 7.6 พันล้านบาท วางเป้ารุกสินเชื่อรายย่อยกลุ่มอาเซียน ที่อัตราเติบโตเศรษฐกิจสูง

PROEN – ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใน Opportunity day เกี่ยวกับสถานะถือครองเหรียญ KUB 2.5 แสนเหรียญ ต้นทุน 291 บาท (72.94 ล้านบาท) ขณะที่ราคาปิดวานนี้ (30 พ.ค.) อยุ่ที่ 105.30 บาท

Opportunity day – 31 พ.ค. GFPT, TVD, WPH, BYD, IIG, PROEN

คาดเข้า/ออก SET50 – คาดเข้า JMT, JMART, BLA /คาดออก RATCH, STGT, KCE

คาดเข้า/ออก SET100 – คาดเข้า SABUY, TIPH, JAS /คาดออก RS, TTA, MAJOR

 

ประเด็นติดตาม: 31 พ.ค. – EU CPI, US Consumer Confidence, TH MSCI Rebalance / 1 มิ.ย. – US ISM Manufacturing PMI, US Job Openings / 3 มิ.ย. – US Nonfarm Payrolls, US Participation Rate, US Unemployment Rate / 6 มิ.ย. – TH CPI / 7 มิ.ย. – TH Interest Rate Decision 

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)