ขอนแก่น ขานรับ "ปลดล็อกกัญชา" ชวนผู้สนใจปลูก จดแจ้งผ่าน 3 ช่องทาง
ขอนแก่น ขานรับ "ปลดล็อกกัญชา" 9 มิ.ย.นี้ ชวนผู้สนใจปลูก จดแจ้งข้อมูลผ่าน 3 ช่องทางหลัก ย้ำชัดหลังปลดล็อกการปลูกไม่มีความผิดตามกฎหมาย ขณะที่พื้นที่จังหวัดขอนแก่น มีพื้นที่ปลูก "กัญชา" และกัญชงแล้ว 25 แห่ง รวมพื้นที่ปลูก 43,062 ตารางเมตร ครอบคลุม 10 อำเภอ
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 เวลา 09.30 น. ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น นพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของจังหวัดขอนแก่น หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุข ได้มีประกาศเรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 มีผล บังคับใช้ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565
ซึ่งจะมีผลให้ทุกส่วนของ "กัญชา" กัญชง ไม่ใช่ยาเสพติดประเภท 5 ยกเว้น สารสกัดที่มีสาร THC เกิน 0.2 % เท่านั้นที่ยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 โดยกล่าวว่า หลังจากวันที่ 9 มิ.ย.65 นี้เป็นต้นไป ประชาชนทั่วไป เกษตรกร ผู้ประกอบธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน สามารถปลูกกัญชา กัญชง เพื่อใช้สำหรับดูแลสุขภาพหรือปลูกเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้
โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่เพียงขอให้จดแจ้งความประสงค์ด้วยตน ผ่าน 3 ช่องทางหลัก คือ
1.แอปพลิเคชั่น “ปลูกกัญ”
2.เว็บไซต์ สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
3.สามารถให้เจ้าหน้าที่รับจดแจ้งแทน เช่น สสจ. อบจ. หรือ กทม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ทั้งนี้ ต้องแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ซึ่งการจดแจ้งจะทำให้ทราบจำนวนและแหล่ง "ปลูกกัญชา" กัญชง ทั่วประเทศ และเป็นแหล่งข้อมูลให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ สามารถใช้เป็นแหล่งวัตถุดิบเพื่อ นำไปผลิตและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ออกสู่ท้องตลาดให้กับผู้บริโภค ถือเป็นการสร้างรายได้และกระตุ้น เศรษฐกิจของประเทศ
ปัจจุบัน ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น มีพื้นที่ "ปลูกกัญชา" และกัญชงแล้ว 25 แห่ง รวมพื้นที่ปลูก 43,062 ตารางเมตร ครอบคลุม 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกระนวน, ชนบท, น้ำพอง, บ้านฝาง, พระยืน, พล, แวงน้อย, สีชมพู,บ้านไผ่ และอำเมืองขอนแก่น
นพ.ภาคี กล่าวอีกว่า เมื่อประชาชนสามารถ ปลูกกัญชง กัญชา ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ก็ต้องคำนึงด้วยว่า การนำไปใช้จะนำไปใช้สำหรับทำอะไร เช่น การนำมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ก็ต้องไปดูว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ กัญชง กัญชา ประกอบอาหารมีอะไรบ้างที่ทำได้ หรือทำไม่ได้
แต่การใช้ประกอบอาหารทานกันในครอบครัวก็ไม่มีปัญหา เพียงแต่ต้องคำนึงว่าจะใช้ในสัดส่วนเท่าใดจึงจะไม่เกิดผลกระทบกับร่างกาย และหากจะนำไปเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง หรือเครื่องดื่มต่างๆ ก็ต้องดูกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์นั้นๆ ด้วยเช่นกัน โดยในภาพรวมขณะนี้ก็มีประชาชนสอบถามเรื่องการจดแจ้งการ ปลูกกัญชง กัญชา บ้างแล้ว ซึ่งทาง สสจ.ขอนแก่น ก็มีการแนะนำให้จดแจ้งผ่านแอปฯ “ปลูกกัญ” ซึ่งจะเป็นช่องทางจดแจ้งที่สะดวกและง่ายที่สุด
“หลังปลดล็อกกัญชง กัญชา การปลูกและการครอบครองจะไม่ผิดกฎหมายอีกแล้ว ยกตัวอย่างเช่น เราปลูกกัญชาไว้ที่บ้านเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหาร แล้ววันหนึ่งเราเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดแล้วนำเอาใบกัญชาไปด้วยเพื่อนำไปทำอาหารทานกับญาติ ๆ แต่ระหว่างทางพบด่านตรวจ และมีการตรวจพบกัญชา ก็ไม่ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย เพราะหลังจากนี้กัญชง กัญชา จะเป็นเหมือนกับพืชสมุนไพรทั่วไป ไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว ซึ่งผู้ที่จะใช้ประโยชน์จากกัญชง กัญชา ก็ขอให้ทำการศึกษาข้อมูลเรื่องคุณและโทษให้ดี ”