เพอร์เฟคแก้เกมตลาดกลาง-ล่างกู้ไม่ผ่านผนึกฮ่องกงแลนด์ลุยบ้านหรู
เงินเฟ้อสูงกลายเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคระดับกลาง-ล่างที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้น! สวนทางกับตลาดบ้านระดับบนดีเวลลอปเปอร์ยักษ์ใหญ่ "เพอร์เฟค" ร่วมกับ “ฮ่องกงแลนด์” หันมาโฟกัสบ้านหรู!ราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปดักเศรษฐีใหม่-นักธุรกิจจีน
วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดบ้านเดี่ยวในปี 2565 คาดมูลค่า 127,888 ล้านบาท ขยับจากปี 2564 มีมูลค่า 121,574 ล้านบาท โดยบ้านเดี่ยวระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 36% เป็น 37% มีมูลค่าอยู่ที่ 47,017 ล้านบาท ขณะที่ตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีสัดส่วน 30% มูลค่า 38,304 ล้านบาท
แต่ปัญหาคือกลุ่มลูกค้าในตลาดกลางระดับราคา 5-10 ล้านบาท และตลาดล่าง ราคา 3-5 ล้านบาท ถูกปฏิเสธสินเชื่อสูง! ตรงข้ามกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับบน ราคา 10-20 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง
“เป็นเหตุผลให้เราหันมาโฟกัสตลาดบ้านเดี่ยวราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ กู้น้อย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนไทยที่มีรายได้สูงจากการประกอบอาชีพยูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ สตาร์ทอัพ อายุไม่เกิน 40 ปี หรือกลุ่มนักธุรกิจจีนที่มาลงทุนในไทย ที่มีรายได้มั่นคง ต้องการบ้านในย่านบางนา-สุวรรณภูมิ”
โดย พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ร่วมกับ ฮ่องกง แลนด์ พัฒนาโครงการบ้านหรู “เลค เลเจนด์ บางนา-สุวรรณภูมิ” มูลค่า 6,300 ล้านบาท ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ บนที่ดิน 83 ไร่ จำนวน 127 ยูนิต มีจุดขายทะเลสาบขนาดใหญ่ 100 ไร่ คอนเซปต์ Modern Italian Lakeside Villa ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากทะเลสาบโคโม่ ประเทศอิตาลี
“จากการเปิดตัวช่วงพรีเซลทำยอดขายได้ 1,000 ล้านบาท ประมาณ 12 ยูนิต 70% ซื้อในรูปของบริษัท ที่เหลือเป็นคนไทย อายุไม่เกิน 40 ปี ประกอบอาชีพยูทูป เปอร์ อินฟลูเอนเซอร์ สตาร์ทอัพ สะท้อนถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีผ่านมา และยังคงเติบโตต่อเนื่องในปีนี้"
โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายเฉพาะสินค้าในกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปไว้ที่ 5,320 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 11% ของมูลค่าตลาดบ้านเดี่ยวระดับบน
ในครึ่งปีหลังนี้ เพอร์เฟคฯ เตรียมเปิด 9 โครงการใหม่มากกว่าครึ่งปีแรกที่เปิดตัวไป 4 โครงการ โดยยอดขายครึ่งปีแรกอาจทรงตัวหรือต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย เนื่องจากการแข่งขันตลาดบ้านแนวราบที่รุนแรงและกำลังซื้อเพิ่งฟื้นตัว! ซึ่งไตรมาสแรก บริษัทมียอดขาย 3,600 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ 18,500 ล้านบาท
วงศกรณ์ ระบุว่า ตลาดอสังหาฯ ขณะนี้แม้จะมีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่ยังคงมีปัจจัยลบที่มีผลมาจากเงินเฟ้อกระทบต้นทุนพลังงาน ราคาสินค้ามีผลให้ ค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น7-10%คาดว่าตั้งแต่เดือน ก.คเป็นต้นไปผู้ประกอบการ อสังหาฯ จำเป็นต้องปรับราคาขายขึ้นอย่างน้อย 5% โดยทยอยปรับราคาแบบขั้นบันได
ดังนั้นช่วงเวลานี้ ถือเป็นโอกาสุดท้ายในการซื้อที่อยู่อาศัยก่อนปรับราคา ซึ่งในแต่ละเซ็กเมนต์ราคาปรับขึ้นแตกต่างกันขึ้นอยู่ความอ่อนไหวของกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มตลาดล่าง!