ผ่าโมเดล SUSCO SQUARE จิ๋วแต่แจ๋ว! สูตรรบรุก Non-Oil

ปัจจุบันโลกธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก กิจการที่เคยทำเงินหรือ Core Bunsiness กำลังถูกท้าทายจากการแข่งขันที่ดุเดือด ยิ่งกว่านั้นพฤติกรรมผู้บริโภคที่ไม่เหมือนเดิมทำให้องค์กรต้องปรับตัวเพื่อหาน่านน้ำใหม่(Blue Ocean) เสริมแกร่ง สร้างการเติบโต

“ซัสโก้” คร่ำหวอดในธุรกิจพลังงานน้ำมันเชื้อเพลงหลายทศวรรษ แต่วันนี้ในฐานะผู้ประกอบการต้องหาธุรกิจใหม่มาเสริม โดยเฉพาะ Non-Oil ด้วยการยกระดับสถานีบริการน้ำมัน(ปั๊ม) ให้เป็น “คอมมูนิตี้มอลล์” แปลงพื้นที่ให้ตอบไลฟ์สไตล์ต่างๆของผู้บริโภคมากขึ้น ไม่เพียงแค่เติมน้ำมันอีกต่อไป

ขณะเดียวกัน การลุยคอมมูนิตี้มอลล์ ยังมีตัวแปรจากวิกฤติโควิด-19 ระบาด ที่พลิกพฤติกรรมผู้บริโภค จากเคยไปช้อป ชิม ชิล ที่ห้างค้าปลีกใจกลางเมือง เริ่มมองหา คอมมูนิตี้มอลล์ใกล้บ้านมากขึ้น มุมมองการเคลื่อนธุรกิจ “ชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด(มหาชน)

เมื่อความต้องการลูกค้าเป้าหมายเปลี่ยน องค์กรต้องปรับหมากรบให้สอดคล้องสถานการณ์ “ซัสโก้” จึงปั้นโมเดล “SUSCO SQUARE” รวบปั๊มพร้อมเติมแม่เหล็ก ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านซักรีด ศูนย์บริการซ่อมรถยนต์ ฯ ไว้ครบในจุดเดียว ประเดิมสาขาแรกที่ศรีนครินทร์ 3

ผ่านไป 1 เดือน ซัสโก้ เดิมเกมรุก เปิดสาขา “SUSCO SQUARE” สาขา 2 ย่านพุทธบูชา พร้อมผนึกพันธมิตรไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ระดับโลก(Global Brand) ทั้งร้านไก่ทอดเคเอฟซี ร้านกาแฟสตาร์บัคส์ สุกี้ ตี๋น้อย และโบรา มาร์ท(Bora Mart) ร้านค้าปลีกจากเกาหลี ฯ เป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าเป้าหมาย

สำหรับพื้นที่เหมาะกับการเปิด SUSCO SQUARE ชัยฤทธิ์ เล็งไว้ขนาด 7-8 ไร่ จึงจะตอบโจทย์ร้านค้า พื้นที่จอดรถ และดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย เมื่อขนาดใหญ่ขึ้น การลงทุนจึงเพิ่มราว 3 เท่าตัว(ไม่รวมค่าที่ดิน) เทียบกับเปิดปั๊มอย่างเดียว

ส่วนแนวคิดการขยาย SUSCO SQUARE บริษัทวางแผนเปิดในเขตกรุงเทพฯให้ครบ 4 มุมเมือง ทำเลที่ตั้งจะเน้นย่านชุมชน หมู่บ้าน หรือย่านที่มีครัวเรือนจำนวนมาก อย่างย่านพุทธบูชา มี 4,000-5,000 หลังคาเรือน และเป็นฐานลูกค้าไฮเอนด์มีกำลังซื้อสูง ยังมีสถานศึกษาชื่อดัง ช่วยขยายฐานเจาะคนรุ่นใหม่ ที่มีพฤติกรรมพร้อมเปย์ หากมีสินค้าและบริการโดนใจ ยิ่งกว่านั้น การมีกลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก ช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาใช้บริการ(Traffic)อย่างต่อเนื่องด้วย

“การพัฒนา SUSCO SQUARE จะกันพื้นที่สำหรับปั๊มน้ำมันราว 1 ไร่ เป็นขนาดย่อมลง ที่เหลือจะรองรับร้านค้า และเป็นที่จอดรถ ตอบไลฟ์สไตล์ช้อป ชิม ชิลของผู้บริโภค และเป็นจิ๊กซอว์ช่วยสร้างการเติบโตให้บริษัท เพราะเราสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น เดิมปั๊มน้ำมันเรามีร้านกาแฟ กับมาร์ท ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่ม 5-10% พอมีแม่เหล็กเพิ่มมากขึ้นทำให้ลูกค้าเพิ่ม 20-30% ที่สำคัญมีการซื้อของ รับประทานอาหารใช้เวลามากขึ้นเป็น 20-30 นาที จากเดิมอาจแวะเติมน้ำมันใช้เวลา 3-4 นาที เข้าห้องน้ำ ซื้อของที่มาร์ทอีกเป็น 10 นาที”

ชัยฤทธิ์ กล่าวว่า เป้าหมาย 2-3 ปี ซัสโก้ ต้องการเติบโต 7-10% ต่อเนื่อง ธุรกิจหลักยังเดินเกมรุก เดินหน้าขยายปั๊มน้ำมันราว 15-20 สาขาต่อปี เพื่อให้มีปั๊มแตะ 300 สาขา จากปัจจุบันมีราว 250 สาขา สิ้นปีคาดว่ามี 260 สาขา ภายใต้แผนดังกล่าวจะลุยโมเดล SUSCO SQUARE ให้ได้ 4-5 สาขา แม้ไม่มากนัก แต่เป็นจุดสตาร์ทสำคัญเพราะช่วย Explore โอกาสในเซ็กเตอร์ใหม่ๆ รวมถึงสร้างการรับรู้แบรนด์ “ซัสโก้” ให้มากขึ้น ต่อยอดความเชื่อมั่นผู้บริโภคควบคู่กันไป  

ชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์

“SUSCO SQUARE เป็นธุรกิจใหม่ แม้โมเดลธุรกิจเรามีไซส์เล็ก แต่มีความคล่องตัวและความเร็วในการทำตลาด อีกทั้งจุดแข็งสำคัญคือการตั้งอยู่บนโลโกชั่นที่ดี และมีแบรนด์แกร่งที่เชี่ยวชาญแต่ละตลาดเป็นพันธมิตร ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เพราะเป้าหมายของบริษัท คือการมุ่งพัฒนาสถานีบริการน้ำมันที่ลูกค้าใช้บริการอย่างสบายใจ”