หุ้น KTB กระแสแรง แอป “เป๋าตัง” โกยยอดใช้งาน

หุ้น KTB กระแสแรง  แอป “เป๋าตัง” โกยยอดใช้งาน

ปรากฏการณ์จองซื้อสลากออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” จนเกลี้ยงแผงในระยะเวลาอันรวดเร็ว ถือได้ว่าสร้างฐานข้อมูลในกลุ่มผู้ที่สนใจลงทุนระดับแมสให้กับเจ้าของแพลตฟอร์มสุดฮอต ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB นำไปต่อยอดผลิตภัณฑ์ทางการเงินในอนาคตได้มหาศาล

        หลังจากเปิดขายสลากออนไลน์งวดแรก  16 มิถุนายน  2565  จำนวน 5,151,500 ฉบับ  มีผู้ซื้อ 987,786 ราย  ที่ราคาฉบับละ 80 บาท ภายในระยะเวลา 4 วัน และมีประชาชนซื้อมากกว่า จำนวน 1,247,406 คน

        ที่สำคัญหลังจากออกรางวัลงวดดังกล่าวพบมีสลากที่ถูกรางวัล 73,191 ใบ ผู้โชคดีถูกรางวัล 41,419 คน ยอดเงินรางวัล 247.4 ล้านบาท และในจำนวนนี้มีรางวัลที่ 1 จำนวน 5 ใบ จากผู้ซื้อ 5 คน ซึ่งสามารถเลือกรับเงินรางวัลตัวเองหรือโอนผ่านแอป “เป๋าตัง” ได้ทันที กลายเป็นทางเลือกของบรรดาคอหวยที่ถูกจริตเพราะต้นทุนถูก และยังสะดวกในการตรวจรางวัลและรับเงิน

           ดังนั้นในงวดที่ 2 วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เปิดขายผ่านออนไลน์จึงเกิดความต้องการล้นหลาม  หมดเร็วกว่าเดิมเพียง 2 วัน ซึ่งเตรียมจะมีการพิจารณาเพิ่มจำนวนสลากออนไลน์ในอนาคต

         ทั้งนี้สลากออนไลน์ถือว่าเป็นการย้ำ และดีสปรับช่องทางการเข้าถึงผลิตภัณฑ์การลงทุน และการเงินในอนาคตที่ชัดเจน  เนื่องจากก่อนหน้านี้แอป “เป๋าตัง” ถูกใช้เป็นฐานข้อมูลให้กับนโยบายภาครัฐมาแล้ว “เราชนะ”   “เราเที่ยวด้วย”  “ม.33 เรารักกัน”

       และที่ถูกจุดพลุเปรี้ยงปร้าง “คนละครึ่ง” ที่ออกแบบมาตรการช่วยเหลือทั้งประชาชน ผู้ค้ารายย่อย  โชห่วย  ไปจนถึงค้าปลีกขนาดใหญ่ จนประสบความสำเร็จมีประชาชนได้รับสิทธิมากถึง 33 ล้านราย

          จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ KTB  ได้เปรียบในแง่ของ Data Base  จำนวนมากผ่านการเข้ามาทำธุรกรรมในแอป “เป๋าตัง”  จนทำให้เริ่มนำผลิตภัณฑ์การเงินที่มีความซับซ้อนมากขึ้นมาจำหน่ายซึ่งคือ “หุ้นกู้ดิจิทัล”

ตามปกติหุ้นกู้เป็นตราสารทุนชนิดหนึ่งที่ต้องมีผู้แนะนำด้านการลงทุน เช่น ธนาคาร  โบรกเกอร์  ผ่านการทำความรู้จักลูกค้าว่ารับความเสี่ยงได้แค่ไหน หรือ  KYC  ซึ่งที่ผ่านมา หากมีการระดมทุนผ่านหุ้นกู้มักจะเป็นการขายให้กับประชาชนผ่านตัวกลางดังกล่าว

        ปัจจุบันสามารถดำเนินการ KYCผ่านดิจิทัล และยังมีจุดเด่นคือ ผูกบัญชีทำให้ซื้อขายได้ทันทีด้วยการโอน และรับเงินผ่านบัญชี 24 ชั่วโมง และยังไม่มีค่าธรรมเนียมสูงเทียบกับซื้อผ่านตัวแทน  

         บริษัทจดทะเบียนมีการขายหุ้นกู้ผ่านแอป “เป๋าตัง” จำนวนมาก และสามารถปิดการขายได้ในระยะเวลารวดเร็ว แม้ว่าจะมีมูลค่าระดมทุนสูงก็ตาม อาทิ บมจ.ซีพี ออลล์  (CPALL)เสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัล รวม 8,000 ล้านบาท  ขายหมดภายใน 15 นาที,บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัล 6,000 ล้านบาท  หมดภายในเวลา 8 นาที 12 วินาที หรือ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) มูลค่า 1,000 ล้านบาท หมดภายใน 4 นาที 23 วินาที ล่าสุดมีบริษัทขนาดใหญ่พาเหรดขายหุ้นกู้ดิจิทัลผ่านแอป ดังกล่าว เช่น บมจ. เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP)

         ที่ผ่านมา KTB พึ่งมีการจับมือร่วมลงทุน (JV) ‘เอคเซนเชอร์ โซลูชั่นส์’  หรือ Accentureบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก จัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ ‘Arise by Infinitas’ ในสัดส่วน 51:49 ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์กลางพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ รองรับการขยายธุรกิจของธนาคาร อินฟินิธัส และพันธมิตรทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยการร่วมทุนในครั้งนี้

        นอกจากผลดีจากแอป “เป๋าตัง” แล้ว KTB ถือว่าเป็นแบงก์ที่มีฐานลูกค้าเอสเอ็มอีจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาเผชิญปัญหาหนี้เสียจากสถานการณ์โควิด-19  จนมีการตั้งสำรองหนี้ฯ สูงสุดในกลุ่มแบงก์ปี 2562  เมื่อแบงก์ชาติผ่อนปรนจัดชั้นลูกหนี้จนถึงสิ้นปี 2565 ทำให้ KTB ลดภาระการตั้งสำรองฯ  พอร์ตสินเชื่อมีคุณภาพมากขึ้น

      และเตรียมจัดตั้งธุรกิจบริหารหนี้ (AMC ) พันธมิตร JV ร่วมกัน บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ ( BAM)  ซึ่งจุดเด่นคือ การมีหนี้อสังหาริมทรัพย์รอขาย (NPA) จำนวนมาก จึงทำให้เป็นปัจจัยบวกให้ KTB 

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์