นายกฯ ยึด 3 เรื่อง ดูแล "ราคาพลังงาน" ไม่ให้กระทบประชาชนมากเกินไป
นายกรัฐมนตรี บอก รัฐบาลดูแลค่าพลังงาน ไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนที่มากเกินไป พร้อมยึดหลัก 3 ประการ รักษาเสถียรภาพไม่ให้ขาดแคลน ดูแลกลุ่มเปราะบาง รักษาสมดุลการใช้เงิน ก่อนเมินตอบภูมิใจไทยส่งรายชื่อปรับ ครม.หรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรอบภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบาย พลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2564 ว่า การประชุมในวันนี้มีหลายกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ในการบริหารงานด้านพลังงาน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเรื่องราคาน้ำมันเพียงเรื่องเดียว แต่เป็นเรื่องพลังงานในภาพรวมทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีการรายงานปัญหาเหตุติดขัดในการดำเนินการ และปรับรูปแบบการใช้พลังงานเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ไฟฟ้าจากโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อที่จะใช้แหล่งพลังงานอื่นมาทดแทน ในกรณีที่ค่าก๊าซ และน้ำมันนั้นแพงขึ้น ซึ่งทุกคนทราบดีว่า ปัญหาราคาน้ำมันไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะประเทศไทย เกิดทุกประเทศทั้งโลก ในปัจจุบัน หลายกลุ่มหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
โดยนายกรัฐมนตรียังระบุอีกว่า หลัก 3 ประการที่สำคัญคือ ปัจจัยพลังงานที่แพงขึ้นต้องศึกษาทำความเข้าใจว่ามาจากปัจจัยที่ใด มาจากปัจจัยภายนอกหรือปัจจัยภายใน เกิดขึ้นทั่วโลกหรือไม่ ไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียว เพราะฉะนั้นตนยืนยันว่าทุกประเทศที่มีการนำเข้าต้นทุนพลังงานจากต่างประเทศเป็นจำนวนมากย่อมได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งทุกคนทราบดีว่าประเทศไทยมีพลังงานอยู่เท่าใด ทั้งทางบกทางทะเล ซึ่งก็พยายามจะหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติม เพื่อทดแทน และแก้ไขปัญหานี้ในอนาคตอย่างยั่งยืน
โดยจะต้องดูแลความมั่นคงด้านเสถียรภาพ พลังงานไม่ให้เกิดการขาดแคลน ไม่ให้เกิดการขยายตัว การประกอบการ ธุรกิจ เศรษฐกิจยังเดินหน้าต่อไปได้ นอกจากนี้จะต้องมีการดูแลค่าพลังงาน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนที่มากเกินไป ขอให้ทุกคนเข้าใจโดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซล ก๊าซหุงต้ม ซึ่งมีผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนในวงกว้าง โดยหากเทียบราคาน้ำมันของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านไทยยังอยู่ในลำดับที่ 7 หรือ 8 จาก 10 ประเทศของอาเซียน และเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคอื่นก็ได้ว่า ว่าราคามากน้อยเพียงใด
นอกจากนี้รัฐบาลจะต้องดูแลให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางด้วยมาตรการต่างๆ ผ่านมาตรการใดบ้างเช่น มาตรการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือเป็นรายกิจกรรม รายผู้ประกอบการ และจะต้องรักษาสมดุลในการใช้เงิน เพื่อช่วยเหลือประคับประคองพลังงาน และการเติบโตเศรษฐกิจเศรษฐภาพทางการเงินการคลัง ให้เติบโตให้ได้ในอนาคต เพราะหากเป็นภาระมากเกินไปในวันหน้าทุกอย่างก็จะย้อนกลับมาอีก เพราะฉะนั้นต้องเดินด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด
และสิ่งหนึ่งที่เป็นข้อยืนยันว่ารัฐบาลทำในวันนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ถูกใจบ้างถูกใจบ้างแต่ก็ต้องรับฟัง ซึ่งจากผลการจัดลำดับความน่าเชื่อถือของไทยจากบริษัทฟิทช์ เรตติ้ง (Fitch) ยังคงอันดับความน่าเชื่อมั่น ในเสถียรภาพทางการเงินการคลัง ของประเทศไทยที่ BBB+ หรือในระดับสูง ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และวิกฤติทางพลังงาน แสดงว่าเราดำเนินการมาได้ดีพอสมควร และยืนยันว่ารัฐบาลจะพยายามทำให้ดีที่สุดในทุกเรื่อง
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องพลังงาน ดำเนินการมาถูกทางแล้วหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ส่วนจะมีการรายงานมายังรัฐนายกรัฐมนตรีหรือไม่ในกรณีที่บริษัทโฮปเวลล์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดแถลงข่าวทวงถามความเป็นธรรมจากกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้ชี้แจงแล้วไม่ใช่หรือเมื่อวานนี้
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีปฏิเสธการ ตอบคำถาม ว่าพรรคภูมิใจไทยมีการระบุถึงการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ ก่อนที่จะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าในทันที
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์