บอร์ดสลากตั้งเป้าเพิ่มสลากดิจิทัลผ่านแอปเป๋าตัง 20 ล้านฉบับ

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลเปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสลากฯ เพื่อแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาบ่ายวันนี้(23มิ.ย.)ว่า บอร์ดสลากมีมติให้เพิ่มปริมาณจำหน่ายสลากดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันเป๋าตังอีก 2 ล้านฉบับ ในงวดวันที่ 1 ส.ค.นี้ โดยจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้ในงวดดังกล่าวมีสลากดิจิทัลขายผ่านแอปเป๋าตังจาก 5.1 ล้านฉบับ เป็นจำนวน 7.1 ล้านฉบับ

นอกจากนี้ บอร์ดได้สั่งการให้ติดตามผลการจำหน่ายสลากดิจิทัลอย่างใกล้ชิด  หากผลการตอบรับขายหมดในเวลารวดเร็วเช่นที่ผ่านมา ก็จะพิจารณาเพิ่มปริมาณสลากในงวดถัดไปอีก 1-2 ล้านฉบับ เพื่อให้ค่อยเป็นค่อยไป และรักษาสมดุลระหว่างสลากใบ และระบบดิจิทัล

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสลากหมายเลขที่ต้องการได้ในราคา 80 บาท โดยมีระยะเวลาในการเลือกซื้อได้นานขึ้น และผู้ขายสลากดิจิทัลก็มีโอกาสจำหน่ายหมดสลากได้หมด โดยไม่ส่งผลกระทบรุนแรงกับผู้ขายสลากใบ ส่วนสลากที่จะนำมาเพิ่มในระบบดิจิทัลนั้น จะมาจากสลากในระบบซื้อจอง ซึ่งขณะนี้ มีการลงทะเบียนเพื่อร่วมขายในสลากดิจิทัลประมาณ 7 หมื่นราย โดยจะคัดเลือกตามลำดับการลงทะเบียน

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มปริมาณสลากดิจิทัล จะพิจารณาความต้องการของประชาชนผู้ซื้อสลาก และต้องพิจารณาถึงระยะเวลาในการขายสลากดิจิทัล ที่ควรจะมีเวลาในการขายตั้งแต่วันแรกจนถึงที่ขายหมด ประมาณ  7-10 วัน เพื่อให้มีเวลามากพอที่จะสร้างกลไกราคาให้อยู่ที่ 80 บาท ทั้งนี้ ปริมาณสลากที่เหมาะสมในการเพิ่มแต่ละครั้งไม่เกิน 2 ล้านฉบับ และจำนวนสูงสุดที่จะเพิ่มไม่เกิน 20 ล้านฉบับ ภายในสิ้นปีนี้

สำหรับโครงการจุดจำหน่ายสลาก 80  ที่สำนักงานสลากฯ เริ่มดำเนินการมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว ปัจจุบัน มีจุดจำหน่ายสลาก 80 ทั้งหมด 754 จุด ทั่วประเทศ และยังมีบางส่วนอยู่ระหว่างทำสัญญา

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนส.ค.นี้ เป็นต้นไปจะมีจุดจำหน่ายสลาก 80 ทั่วประเทศกว่า 1 พันจุด และภายในปีนี้ สำนักงานฯ จะนำร่องขยายจุดจำหน่ายสลาก 80 ซึ่งจำหน่ายสลากผ่านแอปเป๋าตัง ไปที่สถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ ไม่น้อยกว่า  2 พันจุด และหากได้รับการตอบรับที่ดี จะขยายเพิ่มต่อไปให้เป็น 4 พันจุด ซึ่งจะมีจำนวนสลากขายถึง 10 ล้านฉบับ

“ขณะนี้ เราอยู่ระหว่างการเจรจากับปั๊มน้ำมัน 2 แห่ง คือ ปตท.กับ บางจาก เพื่อทำการเพิ่มจุดขายสลาก 80 โดยมีเงื่อนไขการคัดเลือกผู้ขายว่า จะต้องเป็นผู้ขายเดิมในพื้นที่ หากไม่มีผู้ขายในปั๊มนั้นๆ เราจะทำการคัดเลือกผู้ขายที่มีอยู่ในระบบมาขาย แต่จะต้องไม่ใช่เจ้าของปั๊มมาขายเอง”

เขากล่าวด้วยว่า เมื่อรวมจำนวนสลากที่เราจะเพิ่มจากการขายผ่านดิจิทัลราว 20 ล้านฉบับ กับ สลาก 80 ที่ขายตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศตามเป้าหมายอีก 10 ล้านฉบับ เป็น 30 ล้านฉบับ เชื่อว่า จะช่วยแทรกแซงราคาสลากที่ขายเกินราคาได้

เขายังแนะนำสำหรับผู้ที่ซื้อสลากดิจิทัลต่อจากผู้ซื้อคนแรกว่า ถือเป็นความเสี่ยงมากของผู้ซื้อสลาก เนื่องจาก สำนักงานสลากจะการจ่ายรางวัลให้กับผู้ซื้อคนแรกในระบบดิจิทัลเท่านั้น ขณะที่ ผู้ที่นำสลากดิจิทัลไปขายต่อในราคาเกิน 80 บาท จะมีความผิดตามกฎหมาย

สำหรับการคัดกรองผู้จองซื้อปี 65 ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนแล้ว 9 แสนราย ขณะนี้ คัดกรองเหลือ 3 แสนราย และกำลังคัดกรองให้เหลือ 7 หมื่นราย โดยผู้ที่ถูกคัดกรองออกคือ กลุ่มที่มีอาชีพ เช่น ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ มนุษย์เงินเดือน อายุเกิน และต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์