แอสเซทไฟว์เล็งเปิด3โครงการครึ่งปีหลังรับดีมานด์อั้น

แอสเซทไฟว์เล็งเปิด3โครงการครึ่งปีหลังรับดีมานด์อั้น

แอสเซทไฟว์ ประเมินอสังหาฯครึ่งปีหลังฟื้นเล็งเปิด3โครงการครึ่งปีหลังรับดีมานด์อั้นนำร่องโครงการ "บ้านรชยา ประชาสันติ" จ.อุดรธานี บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับราคา 2 - 4 ล้านบาทเดือนส.ค.นี้หลัง5 เดือนแรกของปี65ยอดขายสูงกว่าเป้าหมาย 7%

นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่า สถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมาทยอยฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และกลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ จึงทำให้ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่างๆ กลับมาดำเนินงานตามปกติและส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค

ขณะเดียวกันผู้บริโภคที่เคยชะลอตัวการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงที่ผ่านมาเพื่อรอดูราคาที่เหมาะสม กลับมานัดหมายเข้าเยี่ยมชมโครงการมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปลายปีที่ผ่านมา หลังจากประเมินแล้วว่าราคาที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้  เนื่องจากต้นทุนค่าก่อสร้างและราคาวัสดุปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน   

จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมา โดยสามารถทำยอดขาย ได้ทั้งสิ้นกว่า 530.54   ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้กว่า 7% โดยโครงการที่สร้างยอดขายหลักให้แก่บริษัทฯ คือโครงการวนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์ บ้านเดี่ยว 3 ชั้นระดับลักซ์ชัวรี่บนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ปัจจุบันมีบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ที่เหลือขายอีกเพียง 2 ยูนิตสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดการขายในเร็วๆ นี้ 
 

 ขณะที่แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลัง หากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภค คาดว่าความต้องการซื้อจะทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากกำลังซื้อที่อั้นไว้ อย่างไรก็ตามต้องติดตามแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะมีผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์และความสามารถในการผ่อนชำระของผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย  

ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงวางแผนเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,570 ล้านบาท โดยเป็นบ้านแนวราบในจังหวัดอุดรธานี 1 โครงการ และกรุงเทพฯ อีก 1 โครงการ

ล่าสุดเตรียมเปิดพรีเซลโครงการ "บ้านรชยา ประชาสันติ" ที่จังหวัดอุดรธานี ในเดือนส.ค.นี้  พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ราคา 2.79 – 4.5 ล้านบาท จำนวน 71 ยูนิต มูลค่าโครงการ 270 ล้านบาท

ส่วนไตรมาสสุดท้ายจะเปิดโครงการบ้านแนวราบระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ในกรุงเทพฯ มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท และบ้านแนวราบในจังหวัดอุดรธานีอีก 1 โครงการ บนเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 1,600 ล้านบาท