เปิดบัญชีลูกหนี้ ‘การบินไทย’ ภาครัฐติดค้างกว่า 5.3 พันล้านบาท

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานความคืบหน้าการฟื้นฟูกิจการครบรอบ 1 ปี และการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมานั้นเป็นไปด้วยดี และเกินคาดการณ์จากแผนที่วางไว้ ส่งผลให้การบินไทยยื่นปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ เพื่อลดกรอบวงเงินจัดหาทุนใหม่จากเดิม 50,000 หมื่นล้านบาท เหลือ 25,000 หมื่นล้านบาท

สำหรับข้อมูลตามรายงานดังกล่าว การบินไทยหารายได้จากการขนส่งเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วงเดือน มิ.ย. 2565 มีส่วนแบ่งจำนวนผู้โดยสารคิดเป็น 33% ของจำนวนผู้โดยสารของทุกสายการบิน ซึ่งเป็นระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยของปี 2562 โดยการบินไทยมีจำนวนผู้โดยสาร เฉลี่ยอยู่ที่ 12,654 คนต่อวัน และผู้โดยสารของสายการบินไทยสมายส์สูงกว่า 12,000 คนต่อวัน จึงทำให้การบินไทยมีรายได้จำนวน 6,844 ล้านบาทต่อเดือน และรายได้จากสายการบินไทยสมายส์จำนวน 764 ล้านบาทต่อเดือน

ขณะเดียวกันจากการฟื้นตัวของธุรกิจ ส่งผลให้การบินไทยมีเงินสดสุทธิ ณ วันที่ 30 มิ.ย.2565 ประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 24 เดือน นับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2563 ทำให้ขณะนี้การบินไทยยังไม่มีความจำเป็นต้องจัดหาสินเชื่อใหม่ตามที่เคยระบุไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการด้วยวงเงิน 50,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในรายงานความคืบหน้าของแผนฟื้นฟูยังระบุถึงบัญชีลูกหนี้ที่ติดค้างกับการบินไทย โดยพบว่าเป็นลูกหนี้หน่วยงานรัฐ รวมมูลหนี้กว่า 5,333 ล้านบาท ประกอบด้วย

กองบินตำรวจ

1.หนี้สินค้าซ่อมบำรุงอากาศยานและเครื่องยนต์อากาศยานจำนวน 937.70 ล้านบาท ซึ่งการบินไทยได้รับชำระแล้วเมื่อวันที่ 29 เม.ย.2565

2. หนี้สินที่กองบินตำรวจยกเลิกใบสั่งจ้างภายหลังจากที่การบินไทยดำเนินการจัดหาและออกใบสั่งซื้อพัสดุและอะไหล่จากผู้จำหน่ายแล้วเสร็จจำนวน 905.5 ล้านบาท ซึ่งหากผู้จำหน่ายฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการยกเลิกใบสั่งซื้อกับผู้จำหน่าย การบินไทยเห็นว่ากองบินตำรวจควรรับผิดชอบค่าเสียหายดังกล่าว

กองทัพอากาศ

หนี้สินค่าซ่อมบำรุงอากาศยานและเครื่องยนต์อากาศยาน ณ วันที่ 31 พ.ค.2565 จำนวน 1,155.71 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามและรอรับชำระบางส่วน ตามกรอบวงเงินงบประมาณที่กองทัพอากาศได้รับ

ธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

โดยส่วนนี้ทางธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้นำเงินฝากในบัญชีกองทุนบำเหน็จพนักงานการบินไทย จำนวนประมาณ 2,279 ล้านบาท และจำนวนราว 55 ล้านบาทตามลำดับ มาหักกลบลบหนี้ตามมูลหนี้ ที่การบินไทยมีกับธนาคารดังกล่าว ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ใด้มีคำสั่ง เมื่อวันที่ 23 ก.พ.2565 ให้ธนาคารทั้ง 2 แห่ง ชำระหรือส่งมอบเงินคืนให้แก่บัญชีกองทุนบำเหน็จพนักงานการบินไทย พร้อมดอกเบี้ยภายใน 14 วัน โดยธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตังกล่าว และการบินไทยได้ยื่นคำแถลงคัดค้านคำร้องดังกล่าวแล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลลัมละลายกลางและมีกำหนดนัดสืบพยานในเดือน ก.ย. - ต.ค.2565