’บัวแดง’ สร้างรายได้เสริม 4 พันบาท/เดือน
มีผู้สูงอายุที่หารายได้เสริมให้แก่ครอบครัวโดยการหันมา ปลูกบัวแดงผสมผสานกับการทำสวนผสมแบบเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้จากการทำเพื่อเป็นรายได้เสริมกลายเป็นรายได้หลักของครอบครัว อีกทั้งผลผลิตออกมาไม่เพียงพอจำหน่ายกับท้องตลาด
คุณป้าได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเป็นพืชผักสวนครัวชนิดหนึ่งที่สามารถปลูกได้ง่ายและทำรายได้ดีให้กับครอบครัว โดยสถานที่เพาะปลูกดังกล่าวนั้นอยู่ภายในโรงเรือนขนาดเล็ก ซึ่งดัดแปลงจากโรงเรือนที่ก่อนหน้านี้สร้างขึ้นเพื่อนำมาใช้เลี้ยงหนูนาแต่ไม่ประสบความสำเร็จทำให้โรงเรือนนั้นว่างเปล่า จึงได้คิดดัดแปลงโรงเรือนดังกล่าวมาปลูกบัวแดง โดยก่อนหน้านี้ทางผู้นำชุมชนได้พาตนไปดูงานยังหมู่บ้านแถบภาคอีสาน โดยเฉพาะวิถีเศรษฐกิจพอเพียง และได้พบว่าบัวแดงที่สามารถปลูกได้ตามบ้านประกอบกับในแถบที่ตนอยู่นั้นบัวแดงมีราคาค่อนข้างที่จะแพง จึงได้กลับมาศึกษาและพยายามเพาะปลูกที่บ้าน โดยเริ่มต้นจากสามีของตน ได้น้ำเหง้าหรือหัวของบัวแดงตามธรรมชาติระหว่างออกหาปลามาให้ตน จากนั้นจึงได้ทำการเพาะปลูก รวมถึงสังเกตการเจริญเติบโต จึงทราบว่าสามารถเลี้ยงหรือเพาะปลูกได้ แต่เนื่องด้วยบัวแดงในธรรมชาตินั้นหายากตอนจึงต้องไปซื้อเหง้าหรือหัวของบัวแดงในแถบภาคอีสานมาเพาะปลูกเพิ่มเติมด้วย
โดยบัวแดงนั้นสามารถปลูกได้ง่ายและใช้ระยะเวลาไม่ถึงเดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตขายได้ โดยได้เริ่มต้นหาเหง้าบัวแดงที่ขายในท้องตลาดในแถบภาคอีสานหรือในแหล่งธรรมชาติ นำมาขัดผิวด้วยแปรง ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำให้ส่วนที่เป็นของเสียและของเน่านั้นหลุดออกไป จากนั้นจะนำเหง้าไปตากในที่ร่มให้หมาดโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3 วัน ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่า ต้นอ่อนของบัวแดงนั้นแตกยอดโผล่พ้นเหง้า โดยหลังจากนั้นให้เตรียมที่เพาะปลูกโดยทางคุณป้าได้ใช้ถังพลาสติกหรือถังที่เหลือใช้ภายในบ้านที่มีฝาปิด ใส่น้ำประมาณฝ่ามือโดยถังพลาสติกนั้นจะใช้ 1 ลังต่อเหง้า 5 กิโลกรัม หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ให้สังเกตต้นอ่อนของบัวแดงจะยาวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ให้นำน้ำเติมลงไปให้พอดีกับใบบัวแดงที่งอกออกมา โดยให้สังเกตโดยการดมกลิ่นของน้ำว่ามีกลิ่นคล้ายของการหมักผมของโคลนตมและความเข้มของสีถ้ามีกลิ่นให้เปลี่ยนน้ำทันที มิฉะนั้นจะทำให้เหง้าของบัวแดงเน่า โดยให้หมั่นเติมน้ำทุกๆ 1 อาทิตย์ โดยเคล็ดลับของตนนั้นจะใช้ผ้าหรือฝาปิดไม่ให้โดนแสงแต่ต้องให้มีอากาศเข้า ส่วนผลผลิตที่สามารถเก็บเกี่ยวได้นั้นอยู่ที่ประมาณ 20 วัน
โดยผลผลิตที่ได้นั้นตนจะนำไปจำหน่ายตามท้องตลาดพื้นบ้านทั่วไปในราคากำละ 10 บาท และในบางครั้งจะมีแม่ค้ามารับไปขายต่อ ซึ่งตนจะขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท หลังจากเก็บเกี่ยวได้ 2 วันให้สังเกตเหง้าที่ลอยขึ้นมาจากน้ำ ให้นำมาแยกออกแล้วนำไปทำเป็นปุ๋ยสำหรับต้นไม้และพืชผักสวนครัวได้เป็นอย่างดี หลังจากคัดแยกเหง้าที่เสียแล้วสามารถนำเหง้าที่ยังมีคุณภาพดีมาทำความสะอาดและผึ่งไว้เพื่อใช้เพราะเป็นบัวแดงขายได้ต่อไป