ดีล TRUE รวม DTAC ได้ไปต่อ ภายใต้ “เงื่อนไข” ชี้ชะตา
ความระส่ำระสายของราคาหุ้น TRUE และ DTAC ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา (22 ก.ค.) ส่งผลทำให้ราคาหุ้น TRUE ร่วงลงไปลึกสุดที่ 4.26 บาท และ DTAC 42.75 บาท ท่ามกลางข่าวลือที่สะพัดว่าคณะกรรมการกสทช. ลงมติไม่อมุมัติการควบรวมกิจการ จนทำให้กลายเป็นการเขย่าวงการโอปอเรเตอร์อีกระลอก
ภายหลังได้มีการออกมาชี้แจงและปฎิเสธประเด็นดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยกรรมการยังระหว่างการรวบรวมข้อมูลหลังจากการจัดทำโฟกัสกรุ๊ปกับกลุ่มผู้เกี่ยวข้องต่างๆและรายงานผลการศึกษาจากที่ปรึกษาทางวิชาการที่สำนักงาน กสทช.ได้มีการจัดจ้างไป
รวมทั้งยังมีการเสนอบอร์ด กสทช. เพื่อขยายเวลาออกไปอีกเนื่องจากจัดทำข้อมูลเป็นรายงานไม่ทันที่ประชุม ในการจัดทำรายงานความเห็นกรณีการรวมธุรกิจระหว่าง TRUE และ DTAC ของสำนักงาน กสทช. ออกไปจนถึงวันที่ 3 ส.ค. 2565
สอดคล้องกับ TRUE ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าวเช่นกันว่าการควบบริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาจากคณะกรรมการ กสทช. ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้ง 2 บริษัทได้ออกมากล่าวถึงขั้นตอนการควบกิจการถือว่าล่าช้ากว่าแผนเดิมภายในระยะเวลา 90 วันหลังจากที่ได้มีการยื่นแผนให้กับ กสทช.พิจารณาไปแล้วเมื่อเดือน ม.ค.65 ที่ผ่านมา
โดยทั้งสองบริษัทต้องการให้กระบวนการรับซื้อหุ้นคืนเป็นไปได้ตามแผนที่วางไว้เดิม คือในช่วงเดือน ส.ค. เพื่อไม่ให้กระทบต่อความมั่นใจในด้านของตลาดทุน และผู้ถือหุ้นของ TRUE และ DTAC ที่มีทั้งนักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงกองทุนระดับโลก
ขณะเดียวกันระบุถึงกสทช.ไม่มีอำนาจในการยับยั้งการควบรวมกิจการ มีแต่เพียงการออกเงื่อนไขเพื่อคลายความกังวลของทุกภาคส่วน หากจะยังยั้งความร่วมมือครั้งนี้ต้องไปขออำนาจของศาลปกครอง !!!
ปัจจุบันตามขั้นตอนดำเนินควบรวมกิจการทั้ง 2 บริษัท ตั้งบริษัทใหม่ “ซิทริน โกล บอล ” ยังดำเนินภายใต้การขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นทั้ง 2 บริษัท เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2565 ด้วยการเริ่มเสนอซื้อหลักทรัพย์แบบสมัครใจ (VTO) ปลายเดือนมิ.ย. 2565 – ต้นเดือนส.ค. 2565
และการรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้าน หรือ Vote No และไม่ยอมขาย VTO ในช่วงเดือนส.ค. 2565 โดยระหว่างนี้ทางบริษัทจะขอการยินยอมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น กล่าวได้ว่าขั้นตอนด้านซื้อขายหรือแลกหุ้นคาดแล้วเสร็จในไตรมาส 3/ 2565 หลังจากนั้นการเตรียมดำเนินการภายใต้บริษัทใหม่ ในไตรมาส 4/2565 เพื่อจะได้ให้บริษัทใหม่มีกำไรทันทีและสามารถจ่ายเงินปันผล
สถานการณ์ดังกล่าวแม้จะมีความกดดันทั้งในอุตสาหกรรมเดียวกัน ผู้บริโภค และกฎเกณฑ์ของ กสทช. แต่ในมุมมองด้านตลาดทุนต่างมองว่าดีลควบรวมดังกล่าวสามารถผ่านไปได้มากกว่า 80-90 %
กรณีนี้ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)โนมูระ พัฒนสิน ยังให้น้ำหนักที่มีโอกาสควบรวมได้80% แบบมีเงื่อนไข กสทช., TRUE และ DTAC ชี้แจงกรณีรายงานข่าวคณะอนุกรรมการ 4 ชุดที่แต่งตั้งเพื่อศึกษากรณีการขอควบรวมกิจการ TRUE และ DTAC ลง มติไม่เห็นชอบ 3:1 ข้อมูลดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยกำหนดการ ปัจจุบัน คือ กสทช. ขยายระยะเวลาพิจารณาออกไปถึงวันที่ 3 ส.ค. นี้
นายวสุ มัทนพจนารถ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มองความเป็นไป ดีลนี้เกิดขึ้น 90 % ภายใต้เงื่อนไขที่กสทช.กำหนดและทั้ง 2 บริษัทยอมรับ ซึ่งเงื่อนไขเบื้องต้นคาดว่าเป็นไปได้คือ การกำหนดราคาค่าบริการ หรือ Price Control เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบ และการบังคับให้ทั้ง 2 บริษัทยังมี 2 แบรนด์ในการทำธุรกิจโอปอเรเตอร์ 3-5 ปี ซึ่งจะเป็นผลดีต่อทั้ง 2 บริษัทเพราะอย่างไรก็สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ในระยะเวลาไม่นาน
หากกรณีที่สุดโต่งคือการห้ามไม่ให้ทั้งอุตสาหกรรมขึ้นราคาค่าบริการเลยในระยะเวลาหนึ่งจะเป็นผลลบต่อธุรกิจเพราะปัจจุบันการแข่งขันในกลุ่มให้บริการการโทรสูงอยู่แล้ว รวมไปถึงการบังคับให้ทั้ง 2 บริษัทยังมี 2 แบรนด์ในการทำธุรกิจโอปอเรเตอร์ 5-6 ปี ทำให้การรวมค่าใช้จ่ายเพื่อประหยัดต้นทุนเกิดสะดุดมากกว่าคาดการณ์ไว้
ดังนั้นภายใต้สมมุติฐานเป็นไปได้ดีลดังกล่าว 90 % มีการแลกหุ้นตามสัดส่วน (TRUE 1:0.60018 และ DTAC 1:6.134444) TRUEมีราคามูลค่า (VTO)5.09 บาท และ DTAC (VTO) ที่ 47.76บาท
เมื่อคำนวณรวมราคามูลค่าการรวมกิจการ 9.26 บาทต่อหุ้น ตามสัดส่วนหุ้น TRUE อยู่ที่ 5.56 บาท และ หุ้น DTAC ที่ 56.81 บาท จากราคาหุ้น ณ 22 ก.ค. ปรับตัวลดลงทำให้มีอัพไซต์ TRUE เพิ่มขึ้น 12.1 % และ DTAC ที่ 6.7 %