ส.อ.ท.มองขัดแย้งจีน-ไต้หวัน หนุนส่งออกไทย

ส.อ.ท.มองขัดแย้งจีน-ไต้หวัน หนุนส่งออกไทย

ส.อ.ท.มองความขัดแย้งระหว่างจีนกับไต้หวันประเมินว่าไทยจะได้ประโยชน์จากการขนส่งสินค้าหรือส่งออกใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรม คือ อุตสาหกรรมเกษตร อาหาร และ ชิป หลังจีนออกมาระงับสินค้าหลายประเภท

ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เกรียงไกร เธียรนุกุล ระบุ จากความขัดแย้งระหว่างจีนกับไต้หวันประเมินว่าไทยจะได้ประโยชน์จากการขนส่งสินค้าหรือส่งออกใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมคือ อุตสาหกรรมเกษตร อาหาร และชิป หลังจีนออกมาระงับสินค้าหลายประเภท ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้ไปอีกระยะ ตลอดจนการลงทุนโดยอาจมีการโยกย้ายฐานการลงทุนมาไทย

ความขัดแย้งระหว่างจีนกับไต้หวันมองว่าจะซับซ้อนยืดยาวมากขึ้น แต่อยากให้มองว่าเป็นโอกาสมากกว่าส่วนการที่ค่าไฟปรับขึ้นก็กระทบธุรกิจ แต่เรามีการปรับตัวมานานแล้ว โดยการใช้พลังงานทดแทน ส่วนการขึ้นดอกเบี้ยก็กระทบต้นทุนเช่นเดียวกัน แต่เชื่อว่า ธปท.จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยอย่างร้อนแรง ซึ่งสิ่งที่กังวลคือ การทรุดตัวของเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภคหายไปมากกว่า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างหารือในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้มากขึ้น

สำหรับสัญญาณเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มถดถอยนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องจับตา แต่ในประเทศไทยยังไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก แม้ว่าราคาพลังงานจะพุ่งสูงขึ้นทั้งค่าไฟฟ้าที่จะประกาศปรับขึ้นในงวดเดือนก.ย.-ธ.ค.2565 และค่าน้ำมันที่ยังคงผันผวนระดับบวกลบ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จะเป็นแรงกดดันเงินเฟ้อให้เร่งตัวขึ้นได้อีก 

ทั้งนี้ เงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะกระทบอำนาจซื้อภาคครัวเรือน และต้นทุนของภาคธุรกิจที่ใช้พลังงานสูง อาทิ อุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ เหล็ก โลหะ เซรามิก และแก้ว แต่กลุ่มอุตสาหกรรมได้มีการเตรียมพร้อมสู่พลังงานทดแทนเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว เช่น ติดตั้งโซลาร์ ใช้เทคโนโลยีปรับปรุงเครื่องจักรเพิ่มผลผลิต

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์