สบน.รับต้นทุนเงินกู้รัฐบาลเพิ่มหลังดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้น
สบน.รับต้นทุนกู้เงินรัฐบาลเพิ่มหลังดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้น ขณะที่คาดหนี้ต่อจีดีพีสิ้นปีงบประมาณจะลดลงมาอยู่ที่ 61.3% จากคาดการณ์เดิมที่ 62.69% หลังจีดีพีที่ปรับตัวดีขึ้น และการปรับแผนบริหารจัดการหนี้
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่ออัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับเพิ่มขึ้น จะกระทบต่อต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาลในระยะนับจากนี้ไป
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา สบน.ได้บริหารจัดการให้ต้นทุนเป็นแบบคงที่มาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยคงที่มีสัดส่วนถึง 82% ส่วนที่เหลือเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ส่วนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนนั้น ไม่มี เพราะหนี้ต่างประเทศเรามีน้อยแค่ 1.8% และได้ปิดความเสี่ยงไปหมดแล้ว
สำหรับแผนการบริหารจัดการต้นทุนเงินกู้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2566 ทาง สบน.จะพยายามกู้เงินระยะยาวผ่านการออกพันธบัตรระยะยาวให้มากขึ้น จากเดิมมีสัดส่วนที่ 45% จะปรับเป็น 48% ขณะที่ การออกตั๋วเงินคลังหรือการกู้เงินระยะสั้นจากตลาดจะลดลง โดยอยู่ที่ 14% จากเดิม 18% ส่วนตั๋วสัญญาใช้เงินจะอยู่ที่ประมาณ 25% เท่ากับปีนี้
ส่วนระดับหนี้สาธารณะต่อจีดีพีนั้น ในปีงบประมาณนี้ เราคาดว่า จะปรับลดลงเหลือ 61.3% จากคาดการณ์เดิมที่ 62.69% เนื่องจาก จีดีพีที่ปรับตัวดีขึ้น และการปรับแผนบริหารจัดการหนี้
“เราขอย้ำกับประชาชนว่า การก่อหนี้ของรัฐบาลนั้นเราได้ดำเนินการอย่างรอบคอบ และกู้ตามความจำเป็นด้วยต้นทุนที่เหมาะสม ส่วนหนี้ต่อจีดีพีในปีหน้าจะอยู่ในระดับเท่าไรนั้น จะต้องรอดูแผนการบริหารหนี้ในปี 2566 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา เราก็หวังว่า จีดีพีจะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้หนี้สาธารณะปรับลดลง”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์