"พลังงาน-ขนส่ง" เคลื่อนไทย สู่เป้าหมายคาร์บอนศูนย์
ขณะนี้ประเทศไทยกำลังมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ในปี 2050 และNet Carbon Zero ปี 2065 ดังนั้นทุกภาคส่วนจึงต้องทบทวนโครงสร้างธุรกิจ ร่วมแก้ไขปัญหาให้มุ่งไปในทิศทางเดียวกัน
อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ร่วมกับภาครัฐและเอกชนจัดงาน ASEAN SUSTAINABLE ENERGY WEEK (ASEW) และ Electric Vehicle Asia (EVA) 2022 มหกรรมอุตสาหกรรมด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมที่สุดในภูมิภาคชูแนวคิดผสานพลังร่วมกันสร้างการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ระหว่างวันที่ 14-16 ก.ย.2565
ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้เดินหน้าตามแผนพลังงานแห่งชาติ 2022 (NEP2022) ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันที่พลังงานมีราคาสูง เนื่องจากประเทศไทยนำเข้าทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ดังนั้น การพึ่งพาตัวเองให้ได้จึงสำคัญ อาทิ การใช้พลังงานทดแทนจาก แสงแดง ลม ชีวมวล หรือสิ่งเหลือใช้เพื่อลดการนำเข้า โดยภาคเอกชนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ เนื่องจากการค้าการลงทุนที่มีเงื่อนไขดังนั้น ซัพพลายเชนจะต้องปรับตัวตามไปด้วย
“ปัจจุบันประเทศไทยมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปีละกว่า 300 ล้านตัน โดยภาคพลังงานมีการปล่อยสูงสุดถึง 250 ล้านตัน จึงต้องลดลงอย่างน้อย 40%โดยแผน PDP2022 จะเน้นเรื่องของพลังงานสะอาดเป็นหลัก ที่ปรับในช่วง 8 ปีข้างหน้า จะต้องมีพลังงานสะอาดที่ 10,000 เมกะวัตต์"
ทรงพล เทพนำโสมนัสส์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจเอนเนอร์ยี่โซลูชัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หนึ่งในพันธกิจของ OR คือการสร้าง Seamless Mobility มุ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและภาคธุรกิจรวมถึงมุ่งให้การเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานเป็นไปอย่างไร้รอยต่อถือเป็นอีกก้าวสำคัญสู่การเป็นผู้นำในระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าปัจจุบัน OR เปิดให้บริการสถานีชาร์จ EV Station PluZ 114 แห่งมีแผนขยายเป็น 450 แห่งภายในปีนี้ และจะขยายเป็น7,000 แห่งในปี 2030
“OR ได้นำความรู้ต่างๆ มาจัดแสดง เพื่อร่วมผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค (EV Hub)”
กฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการแลกเปลี่ยนความรู้อันจะนำไปสู่การสร้างความพร้อมอย่างรอบด้านในการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้ามาปรับใช้ในประเทศไทย
กิจกรรมและความเคลื่อนไหวของทุกภาคส่วนจะเป็นแรงส่งสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายคาร์บอนเป็นศูนย์ ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวไม่เพียงผลที่ได้รับจะเป็นทางตรงที่ได้จากความยั่งยืนของการพัฒนาเท่านั้น แต่นั่นหมายถึงแต้มต่อของการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจทั้งของไทยและภูมิภาคด้วย