ราคา ‘น้ำมันดีเซล’ ตลาดโลกจ่อพุ่งแรง! ผลจาก น้ำมันสำรองน้อย-ฤดูหนาวมาเยือน
ราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกขณะนี้กำลังปรับตัวสูงขึ้น จนเหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างมองว่า ราคาที่เพิ่มขึ้นนี้ อาจเพื่อตอบรับความขาดแคลนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจากน้ำมันสำรองทีอาจลดลงและความต้องการที่จะสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว
Key Points
- หากสำรองน้ำมันไว้ไม่เพียงพอก่อนเดือน ต.ค. อาจกลายเป็นความเสี่ยงที่น้ำมันสำรองอยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐาน
- ความต้องการน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูเพาะปลูกและการใช้น้ำมันเพื่อสร้างความอบอุ่น มีผลให้ปริมาณน้ำมันสำรองลดลง
- โรงกลั่น Irving Oil ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์หลักของภูมิภาค New England ของสหรัฐ มีแผนอยู่ในระหว่างการบำรุงซ่อมแซมเป็นเวลานาน 7 สัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย. ข้างหน้า
“ดีเซล” น้ำมันสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งใช้ในการขนส่งทั้งทางรถยนต์ เรือเดินสมุทร รถไถเกษตรกร เครื่องจักรหนัก และเครื่องทำความร้อน กำลังเผชิญความเสี่ยงจากปริมาณสำรองลดลง และความต้องการใช้จะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว ส่งผลให้แนวโน้มราคาน้ำมันประเภทนี้พุ่งสูงขึ้น
เนื่องจาก “น้ำมัน” เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ราคาเกี่ยวโยงกับตลาดโลก ดังนั้น หากผู้ผลิตน้ำมันระดับใหญ่อย่างประเทศแถบตะวันออกกลาง หรือสหรัฐ ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลกประสบปัญหาด้านพลังงาน หรือเคลื่อนไหวไปทางใด ย่อมส่งแรงกระเพื่อมมาถึงราคาน้ำมันในไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
- น้ำมัน พลังงานจำเป็นสำหรับรถในการเดินทาง (เครดิต: Freepik) -
- ปริมาณดีเซลสำรอง อาจลดลงอีก
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า เมื่อฤดูหนาวกำลังมาเยือน ยูจีน ลินเดลล์ (Eugene Lindell) หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์การกลั่นแห่งบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงาน FGE ให้ความเห็นว่า “เราควรสร้างแหล่งสำรองน้ำมันไว้ตั้งแต่ตอนนี้ เพราะกำลังใกล้ถึงเดือน ก.ย. ที่น้ำมันสำรองจะลดลงตามฤดูกาล หากเราสำรองน้ำมันไว้ไม่เพียงพอก่อนเดือน ต.ค. อาจกลายเป็นความเสี่ยงที่น้ำมันสำรองอยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐาน โดยเฉพาะสำหรับประเทศในยุโรปและบริเวณชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ”
ยิ่งไปกว่านั้น การที่ส่วนต่างกำไรของบริษัทน้ำมันต่าง ๆ เพิ่มขึ้นในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และซาอุดีอาระเบียจำกัดการส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก ทำให้น้ำมันตลาดโลกในปัจจุบันมีราคาสูงขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทที่ปรึกษา Wood Mackenzie ระบุว่า ปริมาณดีเซลสำรองในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือจะลดลงในอีกหลายเดือนข้างหน้า โดยเอมมา ฮาวแชม (Emma Howsham) หนึ่งในนักวิจัยของบริษัท Wood Mackenzie ให้ความเห็นว่า ปริมาณดีเซลและเบนซินที่ลดลง เกิดจากการผสมน้ำมันชนิดเบากว่ามากขึ้น การกลั่นเป็นน้ำมันประเภทเครื่องบินเพิ่มขึ้น รวมถึงโรงกลั่นบางแห่งปิดทำการอย่างกะทันหัน อีกทั้งเป็นที่คาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเดือนต่อเดือนจนถึงเดือน พ.ย.นี้
- เกิดความกังวลว่า น้ำมันสำรอง อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นปลายปีนี้ (เครดิต: Freepik) -
- จีนอาจช่วยเติมอุปทานน้ำมันไม่ได้มาก
ท่ามกลางอุปทานน้ำมันที่ตึงตัว จีนเป็นที่คาดหวังว่า จะเป็นผู้ช่วยส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเพื่อคลี่คลายปัญหานี้
อย่างไรก็ตาม เจียหนาน ซุน (Jianan Sun) นักวิเคราะห์ด้านน้ำมันแห่งบริษัทวิจัยพลังงาน Energy Aspects มองว่า ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศจีนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้จากความพยายามกระตุ้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ท่ามกลางภาคอสังหาริมทรัพย์จีนที่ชะลอตัวลง
ขณะเดียวกัน ในช่วงก่อนหน้านี้ที่ความต้องการน้ำมันยังน้อย จีนก็ไม่ได้สำรองน้ำมันเพิ่ม ดังนั้น ปริมาณน้ำมันที่จะส่งออกจากจีนคงมีไม่มากนัก
- โรงกลั่นสหรัฐไม่ได้สร้างคลังสำรองช่วงฤดูร้อน
ในสหรัฐ ราคาปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลาย ก.ค. จึงมีส่วนเพิ่มเงินเฟ้อในเดือน ส.ค. มากกว่าน้ำมันเบนซิน อีกทั้งเหล่าโรงกลั่นในสหรัฐไม่ได้สร้างคลังสำรองในช่วงฤดูร้อนนี้ (เดือน มิ.ย. - ส.ค.) ดังนั้น ความต้องการน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูเพาะปลูกและการใช้น้ำมันเพื่อสร้างความอบอุ่น มีผลให้ปริมาณน้ำมันสำรองลดลง
นอกจากนี้ โรงกลั่น Irving Oil ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในแคนาดา และเป็นซัพพลายเออร์หลักของภูมิภาค New England ของสหรัฐที่ครอบคลุม 6 รัฐ ได้แก่ รัฐเมน, รัฐนิวแฮมป์เชอร์, รัฐเวอร์มอนต์, รัฐแมสซาชูเซตส์, รัฐโรดไอแลนด์ และรัฐคอนเนตทิคัต มีแผนอยู่ในระหว่างการบำรุงซ่อมแซมเป็นเวลา 7 สัปดาห์ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย. ในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำมันดีเซลที่ผลิตออกมาลดลง และราคาปรับตัวสูงขึ้น
อ้างอิง: bloomberg