ซีอีโอ JPMorgan เตือน ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ส่อถดถอย แนะ ‘เฟด’ ลดดอกเบี้ยหลัง มิ.ย.
เปิดมุมมองของ “เจมี ไดมอน” (Jamie Dimon) ซีอีโอธนาคาร “JPMorgan Chase” ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐขณะนี้ โดยเขาชี้ว่า สหรัฐยังไม่พ้นความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย แม้ว่าตลาดจะมองโอกาสเกิดซอฟต์แลนดิ้งที่ 70-80% ก็ตาม
ท่ามกลาง “ดัชนีหุ้น S&P 500” ของสหรัฐทำราคาสูงสุดใหม่ที่ 5,186 จุดเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2567 รวมไปถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4 ปี 2566 เติบโต 3.3% “สูงกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2% จนทำให้หลายฝ่ายมองว่า สหรัฐอาจผ่านพ้นเศรษฐกิจถดถอยและกำลังก้าวไปสู่การเติบโตที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว Bloomberg รายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า เจมี ไดมอน (Jamie Dimon) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของธนาคารยักษ์ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอย่าง JPMorgan Chase กลับมองว่า ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะเกิด “เศรษฐกิจถดถอย” ในสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ควรรอดูแนวโน้มนี้ก่อนตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบาย
ไดมอนเสริมต่อว่า “ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นในปัจจุบัน สะท้อนมุมมองของตลาดว่า สหรัฐมีโอกาสเกิดซอฟต์แลนดิ้งที่ 70-80% ซึ่งเป็นการที่เศรษฐกิจชะลอตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ไม่ถึงขึ้นเศรษฐกิจถดถอย ในมุมมองของผม คือ โอกาสเกิดซอฟต์แลนดิ้งในปีหน้าหรือ 2 ปีข้างหน้านั้น อยู่ที่ราว 50% และถ้าเลวร้ายที่สุด เศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสชะงักงันและเกิดเงินเฟ้อ (Stagflation) ด้วย”
นอกจากนั้น ซีอีโอ JPMorgan ยังแนะนำเฟดว่า เนื่องจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจได้บิดเบี้ยวไปเพราะเหตุการณ์โควิด-19 เขาจึงรับฟังข้อมูลเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง ดังนั้น เฟดควรรอทุกอย่างให้ชัดเจนก่อน แล้วค่อยตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบาย
“เฟดสามารถลดดอกเบี้ยได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งความน่าเชื่อถือจะสะท้อนสู่สาธารณะผ่านการตัดสินใจนี้ โดยผมมองว่า เฟดควรรอให้ผ่านช่วงเดือน มิ.ย. ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้ง” ไดมอนกล่าว
ขณะที่ตลาดมองว่าเฟดมีแนวโน้ม 84% ที่อาจลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ปีนี้ และมุมมองที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยราว 0.9% ได้สะท้อนผ่านราคาหุ้นในปีนี้
ในปัจจุบัน สหรัฐมีปัญหาการว่างงานต่ำ และค่าแรงก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งแม้เศรษฐกิจสหรัฐจะดูเฟื่องฟู แต่กลับแฝงด้วยความเสี่ยงการเกิดเศรษฐกิจถดถอย
ส่วนมุมมองต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซีอีโอ JPMorgan มองว่า “เป็นการยากที่จะทำนายผู้ชนะ ระหว่างโจ ไบเดน (Joe Biden) กับโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) แม้ว่าทรัมป์เป็นนักการเมืองที่วิเศษ แต่กลับมีบุคลิกที่คาดเดายาก ผมหวังว่าเขาจะใคร่ครวญ และใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจมากขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นนโยบายต่างประเทศ และรู้จักวิธีจัดการสถานการณ์ต่าง ๆ”
ก่อนหน้านี้ เขาเคยออกมาสนับสนุนผู้ท้าชิงประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน อย่าง นิกกี้ เฮลีย์ (Nikki Haley) ซึ่งได้ถอนตัวเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หลังจากแพ้ยับในศึกเลือกตั้งขั้นต้นในวัน Super Tuesday หรือวันเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อเลือกตัวแทนพรรค
อ้างอิง: bloomberg, CNBC