ราคาน้ำมัน WTI ปิดบวกเล็กน้อย 7 เซนต์ หลังตลาดกังวลปัญหา ตอ.กลางลุกลาม
ราคาน้ำมัน WTI ปิดบวกเล็กน้อย ตลาดกังวลสงครามที่มีแนวโน้มขยายวงกว้างออกไปนอกฉนวนกาซา อาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง
เมื่อคืนวันพุธที่ 26 มิ.ย. ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดบวก 7 เซนต์ หรือ 0.09% สู่ระดับ 80.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) งวดส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดบวก 24 เซนต์ หรือ 0.28% สู่ระดับ 85.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลดลงในช่วงแรกหลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1 ล้านบาร์เรล
โกลด์แมน แซคส์, เจพีมอร์แกน และซิตี้กรุ๊ปต่างก็คาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำมันในคลังสำรองของสหรัฐจะปรับตัวลง ท่ามกลางความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในสหรัฐ ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ปรับลดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ราคา WTI ดีดตัวกลับในช่วงหลังและปิดตลาดในแดนบวก หลังจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในเลบานอน อาจจะนำไปสู่การทำสงครามอย่างเต็มรูปแบบของทั้งสองฝ่าย และอาจลุกลามไปยังประเทศที่มีอิทธิพลในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงอิหร่านซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมรายใหญ่
ทางด้านประธานาธิบดีตุรกีกล่าวว่า ตุรกีจะยืนหยัดเคียงข้างเลบานอน พร้อมกับเรียกร้องการสนับสนุนจากประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า กลุ่มกบฎฮูตีได้ทำการโจมตีเรือสินค้าในทะแดง โดยฮูตีได้ส่งโดรนหลายลูกพุ่งเป้าโจมตีเรือที่ท่าเรือไฮฟาของอิสราเอล ภายใต้ความร่วมมือกับขบวนการต่อต้านเพื่ออิสลาม (Islamic Resistance Movement) ในอิรัก