กำลังซื้อร่อยหรอ รอ ‘เงินดิจิทัล’ ไม่ทันกาล

กำลังซื้อร่อยหรอ รอ ‘เงินดิจิทัล’ ไม่ทันกาล

รัฐบาลควรจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างทางก่อนที่จะเริ่มแจกเงินดิจิทัลได้ในไตรมาส 4 ปี 2567 และควรสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคธุรกิจไทยและต่างประเทศเพื่อกระตุ้นการลงทุน

สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยมีทิศทางที่ชะลอตัวลง โดยเห็นได้จากหลายหน่วยงานด้านเศรษฐกิจทยอยปรับลดประมาณการลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่เป็นผู้ประกาศผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่เป็นตัวเลขทางการของประเทศได้ประกาศลดประมาณการทันทีที่รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจไตรมาส 1 ปี 2567 โดยปรับลดลงเหลือ 2-3% จากประมาณการเดิมที่ 2.2-3.2% 

สิ่งที่น่ากังวลของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ที่สถานการณ์เศรษฐกิจอยู่ในภาวะซึม โดยเศรษฐกิจไตรมาส 1 ปี 2567 ขยายตัวเพียง 1.5% ถึงแม้จะขยายตัวได้ดีกว่าไตรมาส 4 ปี 2566 ที่เติบโตเพียง 1.1% แต่เศรษฐกิจไทยถือว่าขยายตัวในระดับที่ต่ำมาก ซึ่งเครื่องยนต์เศรษฐกิจหลายตัวที่ขยายตัวไม่ดี เช่น ภาคการผลิตอุตสาหกรรม ในขณะที่การส่งออกขยายตัวต่ำกว่าหลายประเทศในอาเซียน และดูเหมือนรัฐบาลยังฝากความหวังไว้ที่การกระตุ้นระยะสั้นผ่านเงินดิจิทัลที่เลื่อนการแจกจากเดือน ก.พ.2567 เป็นไตรมาส 4 ปี 2567

ที่ผ่านมาผู้ประกอบการระดับเอสเอ็มอีเริ่มได้รับผลกระทบที่ชัดเจนมากขึ้น และมีโอกาสที่จะปิดตัวสูงเพราะมีสายป่านสั้นกว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายเล็กเริ่มมีปัญหาสภาพคล่องจากรายได้ที่ลดลง และถูกซ้ำเติมจากการเข้าถึงสินเชื่อที่มีความเข้มวงวดเพิ่มมากขึ้น แต่ในปัจจุบันเริ่มมีความกังวลต่อสถานการณ์กำลังซื้อที่ซึมยาว และมีแนวโน้มที่จะลามไปสู่ธุรกิจขนาดกลาง และธุรกิจขนาดใหญ่ให้ขาดสภาพคล่อง

ถึงแม้สถานการณ์เศรษฐกิจไทยจะไม่ใช่วิกฤติที่รุนแรงเหมือนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่มีความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจที่ซึมอย่างต่อเนื่อง และทำให้กำลังซื้อลดลงทุกระดับ ซึ่งสะท้อนจากยอดขายบ้านตลาดบนที่มีแนวโน้มลดลง หลังที่ก่อนหน้านี้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หันมาทำตลาดบนมากขึ้นเพราะตลาดล่างมีปัญหา ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขายเดือน พ.ค.2567 ลดลง 23%

รัฐบาลยังคงเดินหน้าผลักดันการแจก"เงินดิจิทัล"ที่มีปัญหาด้านแหล่งเงินมาอย่างต่อเนื่องในรอบเกือบ 1 ปี ที่เข้ามาบริหารประเทศ โดยรัฐบาลควรจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างทางก่อนที่จะเริ่มแจกเงินดิจิทัลได้ในไตรมาส 4 ปี 2567 และควรสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคธุรกิจไทยและต่างประเทศเพื่อกระตุ้นการลงทุน ซึ่งความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศเกิดจากแผนการทำงานของรัฐบาลที่ประกาศออกมา ซึ่งรัฐบาลควรมีทั้งแผนงานด้านเศรษฐกิจระยะสั้นและระยะยาวที่สื่อสารออกมาและปฏิบัติเห็นผล