ราคาน้ำมันลดลงเล็กน้อย หลังเฟดลดดอกเบี้ยแรง
ราคาน้ำมันดิบลดลงเล็กน้อย 28 เซนต์ หลังเฟดลดดอกเบี้ยแรง นักลงทุนมองเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (18 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 28 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 70.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 73.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
คณะกรรมการเฟดมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2563 ส่วนในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือ Dot Plot นั้น เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ภายในสิ้นปีนี้
นักลงทุนมองว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% อาจสะท้อนให้เห็นว่าเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและการชะลอตัวของตลาดแรงงาน
อย่างไรก็ดี การปรับตัวลงของสต็อกน้ำมันดิบช่วยลดช่วงลบของราคาน้ำมัน โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 200,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยล่าสุดมีรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดจาก walkie-talkie หรือเครื่องรับส่งสัญญาณวิทยุแบบมือถือในเลบานอนเมื่อวานนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังเกิดเหตุการณ์เพจเจอร์ระเบิดทั่วเลบานอน จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงสมาชิกของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
รายงานระบุว่า walkie-talkie ที่มีการระเบิดเมื่อวานนี้เป็นเครื่องที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ใช้ โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นทางใต้ของเลบานอน และทางใต้ของกรุงเบรุต ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์