ราคาน้ำมัน บวก 1.14 ดอลลาร์ สัปดาห์นี้พุ่ง 6% หวั่นสงครามยูเครน-รัสเซียแรง
ราคาน้ำมัน WTI ปิดบวก 1.6% แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ตลอดสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันโลก พุ่งแล้ว 6% หวั่นสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขยายวงรุนแรงขึ้น หลังยูเครนได้ไฟเขียวจากสหรัฐยิงขีปนาวุธถล่มศัตรู
ราคาน้ำมัน สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (22 พ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากการทำสงครามที่รุนแรงขึ้นในยูเครนในสัปดาห์นี้ได้หนุนค่าพรีเมียมความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ของตลาด
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.6% สู่ระดับ 71.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 94 เซนต์ หรือ 1.3% สู่ระดับ 75.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ WTI และเบรนท์ ปรับตัวขึ้นราว 6% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. เนื่องจากรัสเซียได้เพิ่มความรุนแรงในการโจมตียูเครน หลังจากที่อังกฤษและสหรัฐอนุญาตให้ยูเครนยิงขีปนาวุธของทั้งสองประเทศเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่า รัสเซียจะยังคงทดสอบขีปนาวุธโอเรชนิก (Oreshnik) ที่มีความเร็วเหนือเสียงในสนามรบ และมีสต็อกขีปนาวุธพร้อมใช้งาน โดยรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธดังกล่าวเข้าไปในยูเครน หลังจากที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธสหรัฐและขีปนาวุธอังกฤษในการโจมตีรัสเซีย
ด้านจีนซึ่งเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกประกาศมาตรการนโยบายในสัปดาห์นี้เพื่อกระตุ้นการค้า รวมถึงการสนับสนุนการนำเข้าผลิตภัณฑ์พลังงาน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการขู่ของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐที่จะเก็บภาษีศุลกากร
ข้อมูลจากนักวิเคราะห์ ผู้ค้า และข้อมูลการติดตามเรือสินค้าบ่งชี้ว่า การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนคาดว่าจะฟื้นตัวในเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ ข้อมูลจากรัฐบาลอินเดียบ่งชี้ว่า การนำเข้าน้ำมันของอินเดียซึ่งเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากการบริโภคน้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้น
ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 31 เดือนในเดือนพ.ย. โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการออกนโยบายที่เป็นมิตรกับภาคธุรกิจมากขึ้นจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในปีหน้า
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.3 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 31 เดือน จากระดับ 54.1 ในเดือนต.ค.