มาเลเซียเร่งพัฒนาผลิตยางรถยนต์
มาเลเซียเร่งพัฒนาผลิตยางรถยนต์ได้เพียงพอกับความต้องการภายใน 5 ปีข้างหหน้า
ที่ผ่านมา ผู้ผลิตยางรถยนต์มาเลเซีย ต้องเผชิญกับปัญหาในเรื่องที่ว่า ผลิตสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการของอุตสาหกรรมรถยนต์แห่งชาติไม่ได้ เพราะเจอกับวัตถุดิบราคาแพง จนแข่งขันไม่ได้
อย่างไรก็ดี ซีอีโอกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางมาเลเซีย หรือมัลคอร์ป "เซราจูดิน อิสมาอิล" บอกว่า การเปิดโรงงานผลิตยางสังเคราะห์แห่งใหม่ ที่โครงการพัฒนาเพื่อการรวมตัวกันของโรงกลั่น และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี หรือโครงการแรพพิด ในเมืองเป็งเกอรัง รัฐยะโฮร์ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า มาาเลเซีย จะผลิตยางรถยนต์ได้เพียงพอกับความต้องการภายใน 5 ปีข้างหหน้า และคาดว่าจะสามารถสร้างแบรนด์ยางรถยนต์ของตัวเองได้ในเร็ววันนี้
นายอิสมาอิล ระบุว่า การจัดตั้งแรพพิด ทำให้มีความหวังถึงการผลิตยางสังเคราะห์ได้ในเชิงเศรษฐกิจ และผลิตยางรถยนต์ในประเทศได้มากขึ้น ทั้งยังทำให้ผู้ผลิตมาเลเซียมีความสามารถทางการแข่งขันมากขึ้นด้วย โดยย้ำว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมากเมื่อพิจารณาถึงข้อเท็จจริงที่ว่า มาเลเซียนำเข้ายางรถยนต์มูลค่ามากกว่า 1,700 ล้านริงกิตเมื่อปีที่แล้ว
ผู้บริหารรายนี้ เสริมด้วยว่า หากไม่เริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้ มาเลเซียอาจต้องนำเข้ายางเพิ่มมากขึ้นถึงปีละ 6,000 ล้านริงกิตต่อปี ภายในปี 2563
ที่ผ่านมา แม้มาเลเซีย จะมีความสามารถในการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ที่เป็นยาง แต่ก็แข่งขันในตลาดไม่ได้ ด้วยสาเหตุหลายอย่าง รวมถึง การทำแบรนด์ของมาเลเซียเอง และบรรจุภัณฑ์ที่ยังไม่น่าสนใจ
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของ ช่วงเวลาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะเกิดการแข่งขัน โดยยกตัวอย่างว่า ในไทยนั้น จะมีเวลานำการแข่งขันในตลาดอยู่ราว 90-120 วัน ส่วนจีนอยุ่ที่ 90 วัน แต่มาเลเซียอยู่เพียงแค่ 60-90 วันเท่านั้น
นายอิสมาอิล บอกด้วยว่า หากสามารถผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ได้ในปริมาณที่มากพอ มาเลเซียก็สามารถส่งออกสินค้าชนิดนี้ได้ โดยเริ่มต้นการส่งออก แทนการนำเข้าในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์
ภาครัฐในประเทศ ก็มีนโยบายสนับสนุนในเรื่องนี้ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดตั้งธนาคารแม่พิมพ์ ซึ่งการมีธนาคารรูปแบบนี้ จะทำให้ผู้ผลิตสามารถยืมแม่พิมพ์ไปผลิตชิ้นส่วนตามที่ต้องการได้ และจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านชิ้นส่วนรถยนต์ เพราะทำให้ผู้ผลิตไม่ต้องมีต้นทุนในเรื่องนี้
ทั้งการมีธนาคารแม่พิมพ์ ยังช่วยให้รัฐบาลสามารถสนับสนุนให้มีการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านริงกิตได้ เมื่อเทียบกับปัจจุบันที่มีมูลค่าราว 40 ล้านริงกิตเท่านั้น
สิ่งที่อุตสาหกรรมรถยนต์มาเลเซียต้องการ และมีความจำเป็นต่อภาคธุรกิจนี้ คือ โรงงานผลิตยางรถยนต์ และการกำหนดมาตรฐาน และตรวจวัดคุณภาพในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับยาง รวมถึง ไส้ในยางด้วย