'เอ็กซิม แบงก์' เผยกำไรปี58 อยู่ที่ 1.52 พันลบ.
"เอ็กซิม แบงก์" เผยกำไรสุทธิปี 58 อยู่ที่ 1.52พันลบ. ขณะที่สินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 7.35 หมื่นลบ. พร้อมเดินหน้านโยบายรุกการตลาด
นายเขมทัศน์ สายเชื้อ รักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) แถลงผลการดำเนินงานของ EXIM BANK ในปี 2558 ว่า EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 1,520 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจาก 1,516 ล้านบาทในปีก่อน โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 มีเงินให้สินเชื่อคงค้างจำนวน 73,540 ล้านบาท เป็นสินเชื่อใหม่ที่เบิกจ่ายเพิ่มขึ้นในระหว่างปีจำนวน 20,307 ล้านบาท และมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร (NPLs Ratio) ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 อยู่ที่ร้อยละ 5.43 เป็นจำนวน 3,993 ล้านบาท รวมทั้งมีเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 5,654 ล้านบาท โดยเป็นสำรองหนี้พึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 2,890 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินสำรองที่กันไว้แล้วต่อสำรองพึงกันร้อยละ 195.65
ธุรกิจของ EXIM BANK ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักคือ สินเชื่อและรับประกัน การสนับสนุนสินเชื่อของ EXIM BANK แก่ผู้ประกอบการไทยในปี 2558 ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ (Business Turnover) 136,634 ล้านบาท และเงินให้สินเชื่อคงค้างจำนวน 73,540 ล้านบาท ด้านรับประกันมีส่วนทำให้เกิดปริมาณธุรกิจส่งออกและลงทุนรวม 64,386 ล้านบาท โดย 10,142 ล้านบาทเป็นธุรกิจส่งออกของ SMEs หรือร้อยละ15.75 ของธุรกิจรับประกันรวม ทั้งนี้ มียอดรับประกันคงค้าง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 จำนวน 15,497 ล้านบาท
การสนับสนุนผู้ส่งออก SMEs เป็นนโยบายหนึ่งที่สำคัญของ EXIM BANK โดยธนาคารได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทำให้มีลูกค้า SMEs เพิ่มมากขึ้น โดยลูกค้า SMEs คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 87 ของลูกค้าทั้งหมด และมีการอนุมัติวงเงินเพิ่มใหม่ในปีเท่ากับ 32,009 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินอนุมัติสะสมที่ลูกค้าสามารถเบิกใช้สินเชื่อได้ 73,861 ล้านบาท ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจทั้งปีของ SMEs เท่ากับ 81,767 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปี จำนวน 29,183 ล้านบาท
ด้านการสนับสนุนตามยุทธศาสตร์ของประเทศและนโยบายรัฐ เช่น สนับสนุนโครงการพัฒนาพลังงานทดแทน สนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมของประเทศ และอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง และสนับสนุนผู้ประกอบการพาณิชยนาวีและโลจิสติกส์อื่นๆ EXIM BANK มีการอนุมัติวงเงินสินเชื่อเพื่อพัฒนาประเทศเพิ่มใหม่ในปีจำนวน 11,217 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินอนุมัติสะสมจำนวน 46,411 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 เท่ากับ 27,565 ล้านบาท
ด้านการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศโดยสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ EXIM BANK ที่จะเป็นธนาคารที่สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่เวทีโลก โดยเฉพาะประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ปัจจุบัน EXIM BANK มีวงเงินอนุมัติสะสมของสินเชื่อเพื่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศในกลุ่มประเทศ AEC รวม 87,099 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินอนุมัติเพิ่มใหม่ในปีเท่ากับ 25,589 ล้านบาท ขณะที่เงินให้สินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 เท่ากับ 41,628 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน EXIM BANK ยังได้ให้การสนับสนุนด้านการป้องกันความเสี่ยงเพื่อผลักดันให้การค้าการลงทุนระหว่างประเทศกับ AEC ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีวงเงินป้องกันความเสี่ยงให้กับผู้ประกอบการอยู่ที่ 26,551 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในปี 2559 EXIM BANK จะมีบทบาทในเชิงรุกทางการตลาดมากขึ้น โดยปรับโครงสร้างองค์กรให้มีฝ่ายกลยุทธ์การตลาด ดูแลงานด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกำหนดกลยุทธ์การตลาด เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงบริการทางการเงินของ EXIM BANK ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนเพื่อเริ่มต้นธุรกิจส่งออกหรือขยายธุรกิจส่งออกอย่างมั่นใจ โดยใช้สินเชื่อและบริการประกันการส่งออกและการลงทุนของ EXIM BANK เงินทุนเพื่อวิจัยพัฒนานวัตกรรม เงินทุนเพื่อค้าขายชายแดนหรือเข้าไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ นิคมอุตสาหกรรม จังหวัดชายแดน รวมทั้งพื้นที่อื่นๆ ที่รัฐบาลส่งเสริมการลงทุน ตลอดจน EXIM BANK จะจัดตั้งหน่วยงานให้ความรู้ทางการเงินแก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงการบริหารจัดการธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและแข่งขันได้ในระยะยาว โดยชูจุดเด่นของแบรนด์ไทยในตลาดโลก