ผู้ประกอบการอสังหาฯ ห่วงยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า เป็นห่วงกำลังซื้อผู้บริโภคที่อยู่ในภาวะชะลอตัวกระทบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับสถาบันการเงินมีความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยเพิ่มหลักเกณฑ์การพิจารณา โดยผู้กู้ต้องมีรายได้ประจำมีสลิปเงินเดือน ดังนั้น ผู้มีอาชีพอิสระจะถูกปฎิเสธสินเชื่อ ทำให้ยอดการปฏิเสธสินเชื่อสูงขึ้นจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 30 ขณะเดียวกันการอนุมัติวงเงินสินเชื่อบ้านของธนาคารพาณิชย์ลดลงและเพิ่มสัดส่วนในการผ่อนชำระต่อเดือนสูงขึ้น ยิ่งกระทบทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอลงอีก โดยเห็นว่าสถาบันการเงินไม่ควรจะเข้มงวดกับสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากจนเกินไป เพราะเป็นสินเชื่อที่มีบ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ควรเข้มงวดกับสินเชื่อบัตรเครดิตมากกว่า เนื่องจากไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันและส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย

นอกจากนี้ ยังคงต้องรอผลจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล เพราะวันที่ 28 เมษายนนี้จะหมดอายุการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองเหลือร้อยละ 0.01 ก่อนจะตัดสินใจว่าจะขอให้รัฐบาลขยายระยะเวลามาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ต่อหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าผู้บริโภคจะเร่งซื้ออสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาสแรก เพื่อใช้สิทธิ์การลดค่าธรรมเนียมให้ทัน ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลกระตุ้นให้อสังหาริมทรัพย์ปีนี้ขยายตัวร้อยละ 5 โดยอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะเติบโตประมาณร้อยละ 5 – 10 ส่วนต่างจังหวัดยังทรงตัวตามกำลังซื้อชะลอลง ซึ่งผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายชะลอการเปิดโครงการใหม่ในต่างจังหวัดเพื่อลดความเสี่ยง