‘ศรีสวัสดิ์’ ทุ่ม 2 พันล้าน รวบบีฟิท

‘ศรีสวัสดิ์’ ทุ่ม 2 พันล้าน รวบบีฟิท

ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ "เตรียมซื้อ-เทนเดอร์" หุ้นทั้งหมดของบีฟิท คาดต้องใช้เงินกว่า 2,010 ล้านบาท พร้อมปรับโครงสร้างกิจการเป็นโฮลดิ้ง

นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) SAWAD กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2559 มีมติเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญและทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัทเงินทุนกรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน)  BFIT เพื่อครอบงำกิจการโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Voluntary Tender Offer) ในราคาหุ้นละ 11.42 บาท ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทจะทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับ นางสาวนริศรา กิจพิพิธ โดยผู้ขายจะทำการรวบรวมหุ้นของบีฟิท ให้ได้เป็นจำนวน 53.011 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.51% ของหุ้นที่ชำระแล้ว ในราคาหุ้นละไม่เกิน 10.50 บาท รวมเป็นเงิน 556.615 ล้านบาท

และเมื่อรวมหุ้นบีฟิทที่บริษัทถืออยู่ก่อนหน้านี้ จำนวน 19.68 ล้านหุ้น ส่งผลให้บริษัทถือหุ้นในบีฟิท รวมทั้งสิ้น 72.691 ล้านหุ้น คิดเป็น 36.35% ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของบีฟิท และที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทต้องมีมติในการเข้าซื้อหุ้น และทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบีฟิท ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของผู้ที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง

ทั้งนี้คำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบีฟิท บริษัทจะทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ จำนวน 127.309 ล้านหุ้น คิดเป็น 63.65% ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด ในราคาไม่เกินหุ้นละ 11.42 บาท คิดเป็นเงินไม่เกิน 1,453.86 ล้านบาท โดยแต่งตั้ง บริษัท เจดี พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ 

นอกจากนี้คณะกรรมการได้อนุมัติการปรับโครงสร้างกิจการตามแผนจัดตั้งกลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัท โดยจะดำเนินการโอนธุรกิจบางส่วน ได้แก่ ธุรกิจสินเชื่อแบบมีหลักประกันทุกชนิด รวมถึงการโอนทรัพย์สินและหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าว รวมถึงสาขาและบุคลากรที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ ให้แก่ บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เพื่อเปลี่ยนการประกอบธุรกิจของ SAWAD เป็นโฮลดิ้ง ไม่มีการประกอบธุรกิจของตนเอง เพื่อที่จะดำเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นเพื่อการมีอำนาจควบคุมกิจกมรอื่นเพียงอย่างเดียว คาดว่าจะดำเนินการภายหลังที่ ธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นชอบการจัดตั้งกลุ่มธุรกิจการเงิน และคาดว่าจะดำเนินการได้เสร็จภายในรอบปีบัญชี 2560

เบื้องต้น ศรีสวัสดิ์ 2014 จะบริหารพอร์ตสินเชื่อเดิมจนสิ้นสุดสัญญาและให้บริการสินเชื่อใหม่แบบมีหลักประกันบางประเภท นอกจากนี้จะมุ่งเน้นบริหารสาขาและให้บริการตัวแทนสินเชื่อ (Banking Agent) ขณะที่บีฟิทจะขยายบริการสินเชื่อแบบมีหลักประกันที่ไม่ทับซ้อนกับศรีสวัสดิ์ 2014 และสินเชื่อบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน (Personal Loan) โดยใช้ตัวแทนสินเชื่อของศรีสวัสดิ์ 2014 นอกจากนี้ บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ซึ่งเดิมให้บริการสินเชื่อบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน และสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (Nano Finance) จะคงเหลือเพียงสินเชื่อ Nano Finance เพื่อไม่ให้ธุรกิจทับซ้อน