'พีทีทีจีซี'ตั้งงบลงทุน5ปี1.5แสนล้านบาท

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี เปิดเผยว่า บริษัท ตั้งงบลงทุนช่วง 5 ปี (ปี2560-2564) อยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท โดยจะเน้นลงทุนในโครงการใหญ่ อาทิ โครงการ โพลี/โพลีออล์ ซึ่งเป็นการลงทุนโพลียูรีเทนครบวงจร โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานที่มาบตาพุด(มาบตาพุดเรโทรฟิต) ซึ่งเป็นโครงการเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นการใช้วัตถุดิบในการผลิต โครงการ Asset Injection(โครงการรวมมิตร) ซึ่งเป็นการเข้าซื้อธุรกิจปิโตรเคมี สายโพรเพน และสายพลาสติกชีวภาพ จากบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) จำนวน 6 บริษัท และรายงานผลการศึกษาของโครงการ PMMA มีมูลค่ารวม 2.63 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนดังกล่าวยังไม่รวมโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ ที่สหรัฐ ที่เลื่อนตัดสินใจลงทุนออกไปเป็นช่วงไตรมาส3-4ของ ปีนี้ จากเดิมคาดว่าจะตัดสินใจได้ไตรมาส 1 ปีนี้

โดยปีนี้ จะใช้งบลงทุนอยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นการเข้าไปซื้อธุรกิจปิโตรเคมี ของปตท. และการลงทุนโครงการผลิตเม็ดพลาสติกชนิด LLDPE เป็นต้น ซึ่งการเข้าไปซื้อธุกปิโตรเคมี 6 บริษัท คาดว่าจะสร้างกำไรให้กับบริษัทได้ราว 2,400 ล้านบาทต่อปี คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส4ปีนี้ ราว 600 ล้านบาท หากสามารถโอนกิจการเสร็จสิ้นภายในเดือนต.ค.นี้ หรืออย่างช้าไม่เกินเดือนเม.ย.ปี2561 ซึ่งโครงการดังกล่าวจะต้องนำเสนอขอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเม.ย.นี้ก่อน

สำหรับ 6 บริษัท ที่ พีทีทีจีซี จะรับโอนจากปตท. คือ 1. บริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด (HMC) จำนวน 41.4% ซึ่งทำเม็ดพลาสติก โพลีโพรพิลีน (PP) 7.7 แสนตันต่อปี 2. บริษัท พีทีที อาซาฮี เคมิคอล จำกัด (PTTAC) จำนวน 50% ซึ่งผลิตอะคริโรไนไตรล์ 2 แสนตันต่อปี เมทิลเมตะคริเลต เป็นต้น 3. บริษัท พีทีที เอ็มซีซี ไบโอเคม จำกัด (PTTMCC) จำนวน 50% ซึ่งเป็นผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพโพลีบิวทิลีน ซัคซิเนต (PBS) 2 หมื่นตันต่อปี 4. บริษัท พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (PTTPM) จำนวน 50% 5. บริษัท พีทีที โพลิเมอร์ โลจิสติกส์ จำกัด (PTTPL) จำนวน 50% และ 6. บริษัท พีทีที เมนเทนแนนซ์ แอนด์ เอนจิเนียริง จำกัด (PTTME) จำนวน 40%

น.ส.ดวงกมล เศรษฐธนัง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี2560 คาดว่า รายได้จะเติบโต 25% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ 3.45 แสนล้านบาท ตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 25% หรืออยู่ที่ระดับ 52-55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รวมถึงปีนี้โรงกลั่นน้ำมันจะกลั่นเต็มประสิทธิภาพ 100% จากปีก่อนกลั่น 83% และค่าการกลั่น(GRM)ปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 5.9 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปีก่อนอยู่ที่ 5.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นต้น

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2559 บริษัทมีกำไรสุทธิ 25,602 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปี 2558 เนื่องจากจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัทฯ รับรู้กำไรมูลค่าสต๊อกน้ำมันที่สูงขึ้น และมี EBITDA จำนวน 48,147 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จาก ปี 2558 โดยในไตรมาส 4 ปี2559 มีกำไรสุทธิ 9,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108% จากช่วงเดียวกันปี2558 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,690 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 57% จากไตรมาส 3 ปี2559 ที่มีกำไรรวมสุทธิอยู่ที่ 6,226 ล้านบาท