'นครชัยแอร์' กำไรวูบตั้งเป้ารายได้เพิ่ม3%

นางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2561 นครชัยแอร์ตั้งหมายจะเพิ่มกำไรขึ้น 3% จากปี 2560 อยู่ที่ 30-40 ล้านบาท รายได้รวมเพิ่มขึ้น 3% จาก 1,700 ล้านบาท และจะเพิ่มเส้นทางเดินรถจาก 39 เส้นทางเป็น 42 เส้นทางเพราะบริษัทมีรายได้จากค่าโดยสารเป็นหลัก

สำหรับปี2560 แม้นครชัยแอร์จะมีกำไรในขณะที่ผู้ให้บริการรถโดยสารรายอื่นขาดทุน และเริ่มทยอยคืนใบอนุญาต แต่ก็พบว่าอัตรากำไรขั้นต้นมีเพียง 2-3% จากเป้าหมาย 5% และมาร์จิ้นก็ลดลงจากในอดีตที่เคยสูงถึง 10%

ทั้งนี้ นครชัยแอร์ ได้จึงเข้าพบนายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อสะท้อนปัญหาอัตราค่าโดยสารไม่สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้น โดยค่าโดยสารปัจจุบันคำนวณบนพื้นฐานราคาน้ำมันดีเซล 20 บาทต่อลิตร แต่ปัจจุบันราคาดีเซลเพิ่มขึ้นเป็น 25 บาทต่อลิตรและยังไม่มีการพิจารณาปรับราคาค่าโดยสาร ขณะเดียวกันเชื่อว่านโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะส่งผลกระทบต่อบริษัท​แน่นอนเพราะเป็นธุรกิจบริการ

ดังนั้นจึงต้องการให้ภาครัฐเข้าช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วยวิธีต่างๆ โดยไม่ต้องปรับขึ้นค่าโดยสาร ซึ่งจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน เช่น ขอให้รัฐช่วยอุดหนุนราคาน้ำมัน ลดภาษีรถยนต์หรือค่าอะไหล่ จัดหาสถานีที่เหมาะสมต่อการเดินทาง โดยบริษัทต้องการดำเนินธุรกิจแบบมีกำไรเพราะต้องนำเงินไปลงทุนพัฒนารวมถึงนำไปดูแลสวัสดิการและเพิ่มเงินเดือนให้พนักงาน

“ตอนนี้มาร์จิ้นบางมากและกำไรลดลงเป็นปีที่ 4 โดยสัปดาห์ที่แล้วจึงขอเข้าพบท่านรองปลัดสมศักดิ์ เพื่อสะท้อนสถานการณ์ผู้ประกอบการ โดยในปี 2560 กำไรเราน้อยมาจริงๆ เราเดือนร้อนมากๆ เพราะเรามีภาระการใช้เงินค่อนข้างเยอะแต่ราคาน้ำมันไม่สอดคล้องกับอัตราค่าโดยสารซึ่งอยากให้ภาครัฐช่วยเข้ามาดูแล”

ในปี 2561 นครชัยแอร์วางแผนการลงทุนด้วยงบประมาณเกือบ 400 ล้านบาท แบ่งเป็นการจัดซื้อรถใหม่ 42 คันวงเงินกว่า 300 ล้านบาท และลงทุนสร้างสถานีโดยสารใหม่ใน 3 จังหวัด ได้แก่ จ.สุรินทร์, พัทยา, ชลบุรี และอุดรธานี
นอกจากนี้นครชัยแอร์สนใจให้บริการรถโดยสารในเส้นทางเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองตามนโยบายรัฐบาล เบื้องต้นคาดว่ากรมการขนส่งทางบก(ขบ.) และกรมการท่องเที่ยว จะเปิดให้ขอรับใบอนุญาตรถโดยสารสาธาณะภายในปีนี้ โดยนครชัยแอร์สนใจจะนำรถโดยสารขนาดเล็ก(ไมโครบัส)ออกให้บริการเส้นทางภายในจ.บุรีรัมย์, อุบลราชธานี, เชียงใหม่, เชียงรายและขอนแก่น