KTIS กำไร 6 เดือนแรกกว่า 11,867 ล้านบาท
KTIS ได้โรงไฟฟ้า-เยื่อกระดาษชานอ้อยหนุน ทำรายได้ 6 เดือนแรกกว่า 11,867 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 27 ส.ค.61 นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 (มกราคม – มิถุนายน 2561) สายธุรกิจที่ยังคงมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องคือสายธุรกิจผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล ซึ่งมีรายได้ 824.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณการหีบอ้อยที่เพิ่มขึ้นทำให้มีเชื้อเพลิงหลักคือชานอ้อยป้อนเข้าสู่โรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ประกอบกับประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าของโรงงานสูงขึ้น ทำให้สามารถผลิตและขายไฟฟ้าได้จำนวนหน่วยสูงขึ้น โดยที่ราคาขายไฟฟ้าเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับรายได้จากสายธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษชานอ้อยมีจำนวน 760.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.6% เนื่องจากทั้งปริมาณและราคาขายเยื่อกระดาษชานอ้อยที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในสายธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล ได้รับผลกระทบจากราคาขายเอทานอลโดยเฉลี่ยลดลง ทำให้มีรายได้ลดลง 5.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนสายธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย มีรายได้ลดลง 18.2% เนื่องจากราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกลดลงจากปีก่อน ทำให้ราคาขายน้ำตาลของกลุ่ม KTIS ซึ่งอิงราคาตลาดโลกปรับลดลงด้วย
"ครึ่งปีแรกของปี 2561 กลุ่ม KTIS มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 11,867.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 177.1 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากราคาขายน้ำตาลทรายเฉลี่ยเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีนี้กับปีก่อนที่ลดลงถึง 29.2% ทำให้เกิดผลขาดทุนสุทธิในครึ่งปีแรกของปีนี้จำนวน 136.4 ล้านบาท" นายประพันธ์กล่าวและเสริมว่า การที่บริษัทมีสายธุรกิจที่เป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่องมาช่วยเสริมนอกเหนือจากสายธุรกิจน้ำตาลทราย ทำให้ช่วยลดผลกระทบจากราคาน้ำตาลทรายที่ผันผวนได้มากพอสมควร ซึ่งแนวทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม KTIS ที่มีจุดเด่นในการจัดหาอ้อย ซึ่งนอกจากจะเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำตาลทรายแล้ว ยังสามารถต่อยอดในอุตสาหกรรมต่อเนื่องต่างๆ ตามนโยบาย KTIS More Than Sugar ที่กลุ่ม KTIS มุ่งเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มในสายอุตสาหกรรมต่อเนื่องมาตลอด เนื่องจากเป็นสายธุรกิจที่มีอนาคตและมีมาร์จิ้นสูงกว่าผลิตภัณฑ์น้ำตาลทราย