BGC มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
จากความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลก BGC ตระหนักและมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา ด้วยการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ทั้งกระบวนการผลิตและการดำเนินงานในทุกมิติ ผ่านศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ TIC (Technology and Innovation Center)
BGC ก่อตั้งหน่วยงาน Research and Development Center ขึ้นในปี พ.ศ. 2551 เพื่อทำงานวิจัยและพัฒนาสำหรับกระบวนการผลิตขวดแก้วเป็นหลัก และเปลี่ยนชื่อเป็น Technology and Innovation Center หรือ TIC ในปี พ.ศ. 2564 ภายใต้เป้าหมายที่จะส่งมอบเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับบรรจุภัณฑ์เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความยั่งยืน
หลากหลายนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าสนใจของ BGC คือนวัตกรรมที่เรียกว่า "ฟีนิกซ์" คือการนำกากตะกอนแก้วจากบ่อแยกน้ำมัน มาแปรรูปใหม่เป็นกระเบื้องปูพื้นโรงงาน ซึ่งเปรียบเหมือนนกฟีนิกซ์ที่เกิดใหม่จากเถ้าถ่านของตัวเอง จึงเป็นที่มาของชื่อโครงการ "ฟีนิกซ์" กระเบื้องที่ผลิตจากกากตะกอนแก้วเหล่านี้ ถูกนำไปทดลองใช้ทดแทนกระเบื้องปูพื้นเดิมบางส่วนภายในโรงงาน เป็นการอัปไซเคิลของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ตามแนวคิด waste to value
อีกทั้งนวัตกรรมการใช้สาหร่ายขนาดเล็กในการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากเตาหลอมแก้ว เพื่อลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ นอกจากช่วยด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสามารถเพิ่มโอกาสทางการตลาดและธุรกิจใหม่ๆ และส่งผลดีต่อชุมชนรอบโรงงานในการลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์อย่างยั่งยืน
BGC ยังมีอีกหลากหลายโครงการที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืน เช่น นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ลดปริมาณการใช้วัสดุใหม่ (Reduce) การนำวัสดุรีไซเคิลกลับมาผสมในบรรจุภัณฑ์เพื่อลดการใช้วัสดุใหม่ (Recycle) รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ (Recyclable)
- Reduce: BGC เป็นผู้นำในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์แก้วชนิดน้ำหนักเบา (Lightweight Glass Container) โดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 6 ปี เริ่มจากบรรจุภัณฑ์แก้วน้ำหนักเบารุ่นที่ 1 (ขนาดบรรจุต่ำกว่า 300 มิลลิตร) และรุ่นที่ 2 (ขนาดบรรจุมากกว่า 600 มิลลิลิตร) โดยสามารถเพิ่มระดับ Lightweight Index จาก Level 1 ไปสู่ Level 2-3 ทำให้ช่วยประหยัดต้นทุนในด้านการผลิตและการขนส่ง ลดปริมาณการใช้น้ำแก้วลง ช่วยลดทรัพยากรในการผลิตและลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มก๊าซเรือนกระจก ทั้งนี้ BGC ยังไม่หยุดนิ่งและกำลังพัฒนาบรรจุภัณฑ์แก้วน้ำหนักเบารุ่นที่ 3 ซึ่งมีระดับ Lightweight Index Level 3 และยังสามารถใช้กับผลิตภัณฑ์ที่มีความดันภายในสูง เช่น ขวดโซดาได้อีกด้วย
- Recycle: ขวด rPET (Recycled PET Bottle) ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิลในสัดส่วนตั้งแต่ 30% ถึง 100% โดยน้ำหนัก อีกทั้งยังคงความใสของขวดด้วยนวัตกรรม reShine ที่ช่วยให้ขวดมีความใสใกล้เคียงกับขวดจากเม็ดพลาสติกใหม่ นอกจากลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว ยังสามารถขอรับฉลาก Carbon Footprint เพื่อแสดงถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ และช่วยลดการเสียภาษีจากการใช้พลาสติก (Plastic Packaging Tax) ในหลายๆ ประเทศ เพิ่มโอกาสในการแข่งขันและสร้างแบรนด์ที่ยั่งยืนด้วยบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก
- Recyclable: ถุงพลาสติกโมโนแมททีเรียล (Mono-material) คือ ถุงพลาสติกที่ประกอบด้วยพลาสติกประเภทเดียว เช่น เป็น Polypropylene (PP) ทั้งหมด หรือ เป็น Polyethylene (PE) ทั้งหมด ซึ่งทำให้สามารถรีไซเคิลได้ และช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 51-60%
สร้างผลกระทบเชิงบวกเป็นวงกว้าง
นวัตกรรมเหล่านี้ นอกจากจะช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้แก่ BGC แล้ว ยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาสังคม ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การลดปริมาณขยะและการลดมลพิษ โดยโครงการต่างๆ โดยได้รับการการันตีความสำเร็จของโครงการจากรางวัลเหรียญทองจากงาน Seoul International Invention Fair 2023 ที่ประเทศเกาหลี ไปจนถึงรางวัล Outstanding Innovative Company จาก SET Awards ในปี 2023 อีกด้วย
นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์แก้วบางส่วนของ BGC ยังได้การรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานและข้อกำหนดขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันว่า BGC ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด และมีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบความยั่งยืนให้โลกและธุรกิจ ตามพันธกิจของบริษัทฯ เสมอมา
มุ่งมั่นพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
BGC ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมไปถึงการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงแต่เป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ แต่ BGC ยังมีเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่ยั่งยืนผ่านศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TIC) และการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง นวัตกรรมของ BGC ไม่เพียงสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจ แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน