วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี CENTEL บริษัทมั่นใจต่อ 4Q24 และปีหน้า
เราคงคำแนะนำ "Trading Buy" ราคาเป้าหมายที่ 40 บาท สำหรับ CENTEL โดยอิงจากปัจจัยดังต่อไปนี้: (i) มุมมองเชิงบวกจากข้อความสำคัญในการประชุมกับนักวิเคราะห์
ซึ่งเราคาดว่า รายได้จากทั้งกลุ่มโรงแรมและกลุ่มอาหารจะเติบโตจากช่วงฤดูกาลที่สูงใน 4Q24F และจะสามารถชดเชยค่าใช้จ่ายก่อนเปิดตัวจากมัลดีฟส์ได้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้กำไรเติบโตใน qoq โดยเราคงประมาณการกำไรปี FY24F (ii) ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นที่ผ่านมา และ CENTEL ขณะนี้ซื้อขายที่ P/E 28 เท่าในปี 2025F ซึ่งแสดงให้เห็นถึง upside ที่จำกัดจากราคาเป้าหมายของเรา
คงเป้าหมาย และมั่นใจต่อแนวโน้มในปี 2025F
1. ธุรกิจโรงแรมมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน RevPAR QTD เติบโต +4% yoy จากราคาห้องพักที่สูงขึ้นและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในญี่ปุ่นและกรุงเทพฯ โดยคาดการณ์ RevPAR 4Q24F จะเติบโตโดดเด่น +9-10% โดยกรุงเทพฯ (+11-12%) และญี่ปุ่น (+28-30%) แม้ว่ามัลดีฟส์จะหดตัว (-18-20%)
2. แผนปรับปรุงโรงแรมในปี 2025F โดยจะปิดปรับปรุงเต็มรูปแบบที่ Centara Grand Resort กระบี่ (5% ของรายได้) และปรับปรุงบางส่วนที่ Centara Grand Beach Resort หัวหิน (6% ของรายได้) ใน 2Q25 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบคาดว่าจะน้อยกว่าการปิดปรับปรุง Centara Mirage พัทยา (13% ของรายได้)
3. แนวโน้มปี 2025F ผู้บริหารยังคงมั่นใจ หนุนจากการกลับมาเปิดให้บริการของโรงแรมในพัทยาและภูเก็ต (15% ของรายได้) รวมถึงการเปิดโรงแรมใหม่ 2 แห่งในมัลดีฟส์ โดยเฉพาะแนวโน้มในญี่ปุ่นที่แข็งแกร่งจาก Expo 2025 ที่โอซาก้า (เม.ย.-ต.ค.) คาดราคาห้องพักเพิ่มขึ้น 13-14%
4. สำหรับโรงแรมในมัลดีฟส์ที่อยู่ในช่วง Soft Opening มีอัตราการเข้าพักปัจจุบันที่ 20-30% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 50-60% ในปี 2025F โดยราคาห้องพักคาดว่าจะถึง USD440-700 ในปี 2026F ทั้งนี้ บริษัทได้บันทึกค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินการในไตรมาส 3Q24 จำนวน 11 ล้านบาท และคาดว่าจะบันทึกเพิ่มอีก 150-200 ล้านบาทใน 4Q24F โดยคาดว่าจะขาดทุน USD2m ในปี 2025F (ที่อัตราเข้าพัก 50%) ก่อนที่จะเริ่มมีกำไรเล็กน้อยในปี 2026F
5. ส่วนธุรกิจอาหารในเดือนตุลาคมมี SSSG ติดลบ 2% จากปัจจัยด้านฤดูกาลใน 4 แบรนด์หลัก อย่างไรก็ตาม EBITDA margin ใน 4Q24F คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับสูง 21.5% (เทียบกับ 18% ใน 2Q23 และปี 2023) ขณะที่บริษัทยังคงมุ่งเน้นการปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร
คงประมาณการผลประกอบการ แนะนำ Trading BUY ราคาเป้าหมาย 40 บาท
ประเด็นสำคัญจากการประชุม ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงประมาณการของเรา ,สำหรับ 4Q24F เราคาดว่ากำไรหลักจะเติบโต qoq จากปัจจัยฤดูกาลท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งในไทยและญี่ปุ่น ประกอบกับการรับรู้รายได้จากการกลับมาเปิดให้บริการของ Centara Grand Mirage พัทยา และ Centara Karon ภูเก็ต ในเดือนธันวาคม ซึ่งจะช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินการของโรงแรมในมัลดีฟส์ที่ 150-200 ล้านบาท แต่คาดจะลดลง yoy เราคงราคาเป้าหมายที่ 40 บาทต่อหุ้น อิงจากการประเมินมูลค่าแบบ DCF โดยปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ระดับ PER 28 เท่าของกาไรปี 2025F