“เอ็มวีทีวี” เจาะเซ็กเมนท์ลุยศึก OTT ผุด “เอ็มวีฮับ” ทวงกระแสหนัง-ซีรีส์จีน
ดำเนินธุรกิจมากว่า 4 ทศวรรษ สำหรับบริษัท เอ็มวี เทเลวิชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ “เอ็มวีทีวี” ผ่านการปรับตัวทุกช่วงเปลี่ยนผ่านของสื่อภาพเคลื่อนไหว
ตั้งแต่ยุควิดีโอ, วีซีดี-ดีวีดี, ยุคเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมครองเมือง มาจนถึงยุคทีวีดิจิทัล ส่งคอนเทนต์ “ภาพยนตร์และซีรีส์จีน” ที่ถือลิขสิทธิ์อยู่ขายให้ช่องต่างๆ นำไปออกอากาศ
กระทั่งยุค “วิดีโอ ออนไลน์ สตรีมมิ่ง” ถึงคราวร้องคำราม เอ็มวีทีวีจึงปัดฝุ่นคอนเทนต์เก่าในมือ ผนึกกับคอนเทนต์ใหม่จากแดนมังกรที่เติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นำมาขึงฉายบน “จอส่วนตัว”ของผู้ชม รองรับพฤติกรรมการชมที่เปลี่ยนไป
โดยได้ร่วมมือกับบริษัท ทีวีบี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ “ทีวีบี ฮ่องกง” ดำเนินธุรกิจบันเทิงผลิตภาพยนตร์และซีรีส์จีนในฮ่องกงและทั่วโลกอย่างต่อเนื่องมากกว่า 51 ปี หลังเห็นศักยภาพด้านการขยายตัวของคอนเทนต์จีนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัว “ธุรกิจใหม่” อย่างแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์สตรีมมิ่ง ภายใต้ชื่อ “เอ็มวีฮับ” (MVHub) ศูนย์รวมความบันเทิงทั้งภาพยนตร์และซีรีส์จีนพากย์เสียงภาษาไทยกว่า 30,000 ชั่วโมง มากที่สุดในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการพากย์เสียงภาษาท้องถิ่นแต่ละประเทศ เช่น เมียนมา ลาว และกัมพูชาด้วย ทำให้มีความพร้อมในการเปิดบริการในประเทศเพื่อนบ้านช่วงไตรมาส 2 ปีนี้
ชัยยุทธ ทวีปวรเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเอ็มวีทีวี กล่าวว่า ทั้งสองบริษัทมีประสบการณ์และจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจบันเทิงร่วมกันมายาวนาน ทั้งในไทยและกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) จึงมั่นใจว่าเอ็มวีฮับจะประสบความสำเร็จ ในฐานะแพลตฟอร์มแรกที่มีคอนเทนต์จีนมากที่สุด โดยในปีแรกที่เปิดให้บริการตั้งเป้าจำนวนผู้ชม 1-1.5 แสนราย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของตลาดผู้เป็นสมาชิกธุรกิจ OTT (Over-The-Top) หรือบริการแพร่ภาพเนื้อหาผ่านอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องลงทุนโครงข่ายสัญญาณเอง
“เราทำธุรกิจกับหนังและซีรีส์จีนมาโดยตลอดตั้งแต่ยุคทำวิดีโอ ลิขสิทธิ์คอนเทนต์จีนระดับคลาสสิกหลายๆ เรื่องอยู่ในมือเรา พอมาถึงยุควิดีโอออนไลน์สตรีมมิ่ง เราเห็นโอกาสจาก ‘ช่องว่าง’ ทางการตลาดที่เกิดขึ้น เพราะปัจจุบันยังไม่มีแพลตฟอร์มไหนจับตลาดเน้นฉายเฉพาะคอนเทนต์จีนอย่างจริงจัง จึงกระโดดเข้ามาธุรกิจ OTT ด้วยการจับเซ็กเมนท์นี้”
ประกอบกับเทรนด์คอนเทนต์จีนกลับมา “มีกระแส” อีกครั้ง หลังจากทีวีดิจิทัลทุกช่องจัดเวลาออกอากาศสำหรับซีรีส์จีนอย่างน้อย 1-2 เรื่องต่อช่อง และยังได้กระแสจากวงการน้ำหมึกมาช่วยสร้างสีสัน มีนิยายจีนทั้งแนวพีเรียดและกำลังภายในตีพิมพ์เป็นหนังสือและผลิตเป็นอีบุ๊กขายจำนวนมาก
“คนไทยเราโตมากับหนังจีน และมีความทรงจำกับหนังจีนมากมาย คอนเทนต์จีนจึงไม่ได้หลุดหายไปไหน และไม่มีวันตายไปจากประเทศไทย”
โดยปัจจุบันคนเริ่มโหยหาคอนเทนต์จีนโดยเฉพาะในยุคเก่าๆ ขึ้นหิ้งคลาสสิกซึ่งหาดูได้ยากมากๆ ขณะที่ยุคใหม่ก็มีคอนเทนต์น่าสนใจเช่นกัน จึงเชื่อว่ากลุ่มเป้าหมายจะมาจากทุกเพศทุกวัย ได้ตลาดคนรุ่นใหม่มาเพิ่มด้วย
ด้าน อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการสายธุรกิจใหม่ กลุ่มบริษัทเอ็มวีทีวี กล่าวเสริมว่า ต้องการนำประสบการณ์ที่คนไทยเคยชื่นชอบในการชมคอนเทนต์จีนทางจอโทรทัศน์ กลับมาในรูปแบบใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ชมได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทั้งแบบบรอดแบรนด์และเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในระบบ 4G รวมถึงการรองรับระบบ 5G ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยเอ็มวีทีวีมีคอนเทนต์จีนระดับคลาสสิกลิขสิทธิ์พากย์ไทย มากกว่า 250 เรื่อง หรือกว่า 10,000 ชั่วโมง อาทิ ไซอิ๋ว เปาบุ้นจิ้น มังกรหยก กระบี่ไร้เทียมทาน และจิ๋นซีฮ่องเต้
“การได้กลุ่มบริษัททีวีบีฮ่องกงมาเป็นพันธมิตร จะช่วยผลักดันให้เอ็มวีฮับเป็นอาณาจักรของคนรักหนังจีน ด้วยการนำซีรีส์จีนชุดใหม่ๆ ของแพลตฟอร์ม TVB Anywhere บริการออนไลน์สตรีมมิ่งของกลุ่มทีวีบีในต่างประเทศซึ่งไม่เคยออกอากาศในไทย นำมาพากย์อีกมากกว่า 50 เรื่อง กว่า 1,500 ชั่วโมง และยังมีหนังกับซีรีส์จีนที่สามารถรับชมในอรรถรสภาษาจีนชุดใหม่ ฉายพร้อม TVB Anywhere ปีละมากกว่า 15 เรื่อง 700 ชั่วโมง”
ถือเป็นการขยับตัวครั้งใหญ่ของกลุ่มทีวีบีฮ่องกงในการกลับมาทวงความนิยม พร้อม“ปลุกตลาดคอนเทนต์จีน” ในประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากเคยครองความรุ่งเรืองในยุค 80-90s!