'กุลิศ' เร่งแผนขยายสายส่ง ดันไทยศูนย์กลางไฟฟ้าอาเซียน รับมือดิสรัปชั่น
“กุลิศ” เร่งแผนขยายสายส่ง ดันไทยศูนย์กลางไฟฟ้าอาเซียน รับมือดิสรัปชั่น
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษ “พลังงาน ยุค...ดิสรัปชั่น ที่จัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ณ ห้อง แกรนด์บอลลูมโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ โดยระบุว่า นโยบายกระทรวงพลังงานที่จะรองรับดิสรัปชั่นคือ 4D และ 1 E ประกอบด้วย 1.DIGITALIZAION 2.DECARBONZATION 3.ELECTRIFICATION 4.DECENTRALIZAION และ5.DE-REGULATION
โดยเรื่องของ DIGITALIZAION จะยกระดับโครงข่ายสายส่งไฟฟ้า ด้วยการปรับโครงสร้างพื้นฐาน โดยจะขยายสายส่งไฟฟ้าจาก 115 เควี เป็น 500 เควี หรือ 800 เควี เพื่อให้สามารถรองรับไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานทดแทนได้และเข้าถึงพื้นที่ชุมชนได้ ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีฯ ที่จะส่งเสริมพื้นที่ หรือ แซนด์บ็อกซ์ โดยช่วงต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ได้หารือร่วมกับ 3 การไฟฟ้า คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง ,สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.),สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.),คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เพื่อร่วมมือกันจัดทำแผนให้สามารถรองรับการเพิ่มขึ้นของพลังงานทดแทนในอนาคต(Grid connection) ซึ่งเรื่องนี้จะต้องเชิญภาคเอกชนอย่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เข้ามาร่วมประเมินและกำหนดศักยภาพของเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าชุมชนที่จะเกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ด้วย
“การปรับแปนพีดีพี จะต้องดูพื้นที่ถนนทางหลวงให้สามารถขยายสายส่งได้ และแก้กฎหมายของกฟผ.จากรับซื้ออย่างเดียวให้สามารถขายไฟฟ้าได้ด้วย เพื่อรองรับการเป็นเทรดเดอร์ หรือการเป็นศูนย์กลางการซื้อขายไฟฟ้าในภูมิภาค ซึ่งเรื่องนี้ จะเป็นโจทย์สำคัญสำหรับการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพในวันที่ 3 ก.ย.นี้ ที่จะหารือเรื่องของ grid connectivity เชื่อมโยงไฟฟ้ากับภูมิภาคด้วย”