TCAP - ซื้อ
ปลดล็อคมูลค่าการลงทุนในบริษัทลูกหลังปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่
Event
ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ถือ เป็น ซื้อ
lmpact
เงินทุนส่วนเกินจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ TCAP
หลังจากทำดีล M&A เสร็จเรียบร้อยในเดือนธันวาคม 2562 (รวมขั้นการซื้อหุ้นใหม่ของ TMB, ขายหุ้น Tbank ให้กับ TMB, ซื้อบริษัทลูก และบริษัทในเครือของ Tbank กลับมาอยู่ภายใต้ TCAP) TCAP จะมีเงินสดส่วนเกินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่ง TCAP มีแผนชัดเจนที่จะใช้เงินสดส่วนเกินก้อนนี้เพิ่มมูลค่าของบริษัท โดยจะใช้ประมาณ 5.0 พันล้านบาทซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 97 ล้านหุ้น (หรือ 8.3% ของหุ้นที่มีอยู่ของ TCAP) และจ่ายเงินปันผลพิเศษ 4 บาท/หุ้น เพิ่มเติมจากเงินปันผลประจำปีที่ 2.6 บาท ดังนั้น โดยรวมคาดว่าบริษัทจะจ่ายปันผล 6.6 บาทในรอบผลการดำเนินงานปี 2562
ปลดล็อคมูลค่าการลงทุน
หลังจากที่โอน Tbank ไปอยู่ภายใต้ TMB แล้ว TCAP จะกลายเป็นบริษัทโฮลดิ้ง (holding company) อยู่ที่มีมูลค่าหลักของกิจการจะอยู่ที่การลงทุนในบริษัทในเครือ (figure 1-2) งบดุลจะมีขนาดเล็กลง เพราะและไม่จำเป็นต้องรักษาระดับเงินกองทุนขั้นที่ 1 และจะทำให้สัดส่วน D/E สุทธิลดลงเหลือ <0.5 เท่า ทั้งนี้การที่บริษัทได้รับเรตติ้งจาก TRIS Rating ที่ A+ เราจึงคิดว่า TCAP มีโอกาสที่จะเพิ่มสัดส่วนหนี้มากขึ้นเพื่อลงเพิ่มขนาดของกำไร หรือมีโอกาสที่จะจ่ายเงินปันผลมากขึ้นด้วยการเพิ่มอัตราเงินปันผลจ่าย (payout ratio) เพื่อให้ ROE เพิ่มขึ้น
.... และกลายเป็นหุ้นปันผล โดยมีอัตราผลตอบแทนระยะยาวอยู่ที่ประมาณ 7%
ในปัจจุบัน TCAP จ่ายเงินปันผลที่ประมาณ 45-50% ของกำไรสุทธิ ซึ่งการจ่ายปันผลบริษัทจ่ายเป็นเงินปันผลจาก Tbank (payout ratio ที่ 45-50%) โดยเงินปันผลของ Tbank มาจากผลดำเนินงานของธนาคารและรายได้จากปันผลของบริษัทในเครือ (ได้แก่ THANI, MBK, PRG, TNS TNI ฯลฯ) ทั้งนี้ เนื่องจาก TCAP ถือหุ้น 51% ใน Tbank ดังนั้น TCAP จึงต้องแบ่งรายได้จากเงินปันผลรับจากบริษัทในเครือกับ Novascotia ดังนั้นภายหลังการปรับโครงสร้างการลงทุนใหม่โดยโอนการถือหุ้นบริษัทในเครือเหล่านั้น
มาอยู่ภายใต้ TCAP จะทำให้ TCAP ได้รับเงินปันผลตรง ซึ่งก็จะถูกส่งต่อไปที่ผู้ถือหุ้นของ TCAP ทั้งนี้ เนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไรเป็นแผนงานลำดับแรกของ TCAP ซึ่งน่าจะทำให้ TCAP เพิ่มอัตราการจ่ายปันผลเป็น 75% (จากเดิม 45%) ต่อเนื่อง 3 ปี คิดเป็น dividend yield ที่ 7%
ปรับเพิ่มคำแนะนำจากถือเป็นซื้อ และคงราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้าที่ 61.0 บาท
จากความคืบหน้าของดีล M&A และความชัดเจนในแผนการใช้เงินทุนส่วนเกิน ทำให้เรามองว่าราคาหุ้น TCAP ในปัจจุบันอาจจะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงเป็นพิเศษที่ 12% และอัตราผลตอบแทนระยะยาวจะอยู่ที่ประมาณ 7% ซึ่งจากราคาหุ้นที่คิดเป็น P/E แค่ 8.0x เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ถือ เป็น ซื้อ และคงราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้าเอาไว้ที่ 61 บาท (P/E 10.x, P/BV ที่1.0x)
Risks
มีการขยายกรอบเวลาทำดีล M&A, NPL เพิ่มขึ้น และตั้งสำรองเพิ่มขึ้น.