สงครามการค้า 'ทรัมป์' ทำนักลงทุนหนีจีน เข้าตลาดหุ้น 'อินเดีย - ญี่ปุ่น'

สงครามการค้า 'ทรัมป์' ทำนักลงทุนหนีจีน เข้าตลาดหุ้น 'อินเดีย - ญี่ปุ่น'

‘ทรัมป์’ กลับสู่ทำเนียบขาวเพิ่มความเสี่ยงเรื่องภาษี นักวิเคราะห์คาดระยะสั้น เงินลงทุนไหลเข้าตลาดหุ้น ‘ญี่ปุ่น - อินเดีย’ ได้ประโยชน์ หากมีการย้ายฐานผลิตออกจากจีน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่าชัยชนะในการเลือกตั้งของโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลกระทบต่อทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะตลาดหลักทั้ง 3 แห่ง เนื่องจากความเสี่ยงเรื่องภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้น

นักวิเคราะห์ตลาดคาดการณ์ว่า เงินลงทุนมีแนวโน้มจะไหลเข้าสู่ “อินเดียและญี่ปุ่น” มากขึ้น ท่ามกลางความกังวลต่อท่าทีสหรัฐที่มีต่อจีนของทรัมป์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนถึง 60% ขณะเดียวกัน Morgan Stanley ก็ปรับทิศทางการลงทุน โดยให้น้ำหนักหุ้นอินเดีย และญี่ปุ่นมากกว่าจีน

อินเดียกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุน ด้วยจุดแข็งในฐานะฐานการผลิตที่เป็นทางเลือกแทนจีน และมีความเสี่ยงต่ำจากปัจจัยภายนอก เนื่องจากเศรษฐกิจพึ่งพาปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก

ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นคาดว่าจะได้ประโยชน์โดยอ้อมจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ ที่อาจทำให้อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า และเงินเยนอ่อนค่า ซึ่งเป็นผลดีต่อบริษัทส่งออกของญี่ปุ่น

มาร์ก โมเบียส ชี้ให้เห็นว่าการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตออกจากจีนกำลังสร้างโอกาสให้กับหลายประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงญี่ปุ่น และอินเดีย โดยมองว่าอินเดียจะได้รับประโยชน์มากที่สุด เพราะมีความได้เปรียบด้านแรงงานที่มีทั้งจำนวนมาก และต้นทุนต่ำ ซึ่งเทียบเคียงได้กับจีน นอกจากนี้ หากทรัมป์ยังคงใช้หรือเพิ่มมาตรการกีดกันทางการค้ากับจีน ก็จะยิ่งเป็นผลดีต่ออินเดียมากขึ้น

สงครามการค้า \'ทรัมป์\' ทำนักลงทุนหนีจีน เข้าตลาดหุ้น \'อินเดีย - ญี่ปุ่น\'

ตลาดหุ้นตอบรับชัยชนะของทรัมป์อย่างชัดเจน โดยในวันพุธ ดัชนี MSCI Japan และ MSCI India ต่างปรับตัวขึ้นกว่า 1.5% ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่ดีที่สุดในไตรมาสนี้ ในทางตรงกันข้าม ดัชนี MSCI China กลับปรับตัวลดลงมากกว่า 2% สะท้อนความกังวลของนักลงทุนต่อนโยบายของทรัมป์ที่มีต่อจีน

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์