ปรับเงื่อนไข 'ชิมช้อปใช้' ในส่วนที่ปชช.จะเติมเงินเพิ่มใน G-wallet
ครม.ไฟเขียวปรับเงื่อนไขมาตรการ "ชิมช้อปใช้" ในส่วนที่ประชาชนจะเติมเงินเพิ่มใน G-wallet เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเพิ่มเติมวงเงินสมทบไม่เกิน 4,500 บาทต่อราย โดยให้ครอบคลุมการใช้จ่ายในร้านธงฟ้าประชารัฐ สปา ไกด์ท้องถิ่น รวมทั้งการเช่ารถเพื่อท่องเที่ยว
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้(10 ก.ย.62) เห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมวิธีการดำเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยสาระสำคัญที่มีการแก้ไขตามที่ ครม.เห็นชอบในครั้งนี้คือ จากเดิมที่ในของส่วนของการเติมเงินในระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ (G-wallet) ของกระทรวงการคลังที่รัฐบาลจะสมทบเงินให้ตามจำนวนที่จ่ายจริงเท่ากับ 15% แต่ไม่เกิน 4,500 บาทต่อคน (วงเงินไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน)ในการใช้จ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าที่พัก หรือค่าซื้อสินค้าท้องถิ่น จากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ
โดยให้เพิ่มข้อความว่ากรณีที่ผู้ลงทะเบียนเติมเงินใน G-wallet ตามนโยบายของกระทรวงการคลังเพื่อใช้จ่ายเป็นเพื่อการซื้ออาหาร และเครื่องดื่ม ค่าที่พักรวมถึงค่าบริการต่างๆ ตามปกติของที่พักนั้น ค่าซื้อสินค้าท้องถิ่น ค่าซื้อสินค้าจากร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือค่าบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในท้องถิ่น เช่น สปา การเช่ายานพาหนะ ค่าบริการนำเที่ยวในพื้นที่ เป็นต้น จากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการของรัฐบาล โดยรัฐบาลจะจะสมทบเงินให้ตามจำนวนที่จ่ายจริงเท่ากับ 15% แต่ไม่เกิน 4,500 บาทต่อคน (วงเงินไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน) ในการใช้จ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าที่พัก หรือค่าซื้อสินค้าท้องถิ่น จากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งการปรับเงื่อนไขนี้สจะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนใช้จ่ายมากขึ้น และมีจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น