หากไม่เกิดเศรษฐกิจถดถอย หุ้นโลกมีโอกาสปรับขึ้นคล้ายปี 1995

หากไม่เกิดเศรษฐกิจถดถอย หุ้นโลกมีโอกาสปรับขึ้นคล้ายปี 1995

ปัจจัยลบเริ่มคลี่คลายขณะที่มุมมองเศรษฐกิจโลกปีหน้ามีอัพไซด์

ความกังวลเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (recession) เริ่มลดลงจากการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายของธนาคารกลางทั่วโลก, สถานการณ์ Brexit ที่แม้จะยืดเยื้อแต่ก็หลีกเลี่ยงความเสี่ยงกรณีเลวร้าย (แยกตัวโดยไร้ข้อตกลง) ขณะที่สงครามการค้ามีโอกาสผ่อนคลายลงจากท่าทีของผู้นำสหรัฐฯ-จีน และตัวเลขการส่งออกสินค้าเกษตรสหรัฐฯที่เริ่มเห็นสัญญาณบวกคำสั่งซื้อจากจีน ทำให้สถานการณ์โดยรวมคล้ายปี 1995 ที่ตราสารทุนมีโอกาสฟื้นตัว (ดู UTRADE Morning Call)

เข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการ SCC รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/62 ที่ 6.2 พันล้านบาท -12% QoQ และ -35% YoY ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด 11% และ 18% ตามลำดับ แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/62 คาดยังอ่อนแอ ก่อนที่จะฟื้นขึ้นตามฤดูกาลในช่วงไตรมาส 1/63 เราคงราคาเหมาะสมที่ 370 บาท หลังจากเราปรับคำแนะนำเป็นขายตั้งแต่ 30 ก.ค.62 ราคาหุ้นปรับลดลง 18% เราปรับคำแนะนำขึ้นจากขายเป็นถือ ทั้งนี้แม้คาดกลุ่มปิโตรเคมีโดยรวมจะรายงานงบที่อ่อนแอ แต่มีโอกาสเกิด technical rebound จากราคาปัจจุบันหลังผลการดำเนินงานส่วนใหญ่รับรู้ไปในราคาในระยะสั้นแล้ว

ผันผวนในโซนต่ำ 1600 ก่อนฟื้นตัว ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ช่วงสั้นมีโอกาสผันผวนจากแรงขายปรับพอร์ต โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นปลอดภัยที่ปรับขึ้นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงตลอดทาง อย่างไรก็ตามล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี ปรับขึ้นเป็น 1.85% จากผลของการดำเนินนโยบายการเงินรอบใหม่ ขณะที่ภาพเศรษฐกิจโลกที่มีอัพไซด์จากการชะลอสงครามการค้า อาจทำให้เกิดแรงซื้อกลับในกลุ่มหุ้นอิงเศรษฐกิจที่ปรับลดลงมาก

เราเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดตลาดเป็นบวกในช่วงไตรมาส 4/62 เราเน้น selective buy 1) สาธารณูปโภคที่ยังไม่แพง WHAUP, BGRIM, SSP, NNCL 2) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว อาทิ EPG, BJC, BGC, DCC โรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO 3) กลุ่มโรงแรม AOT, MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, INTUCH, VRANDA*, TEAMG, MTC, SAWAD, VNT*, CPN // กลุ่มการแพทย์ ร.พ.ขนาดเล็กเด่น RPH*, RJH*, CHG

ภาพรวมกลยุทธ์ แม้ SET อาจผันผวน แต่คาด downside ในหุ้นใหญ่หลายตัวเริ่มจำกัด กรอบการเคลื่อนไหวที่ 1570-1610 จุด // หุ้นแนะนำวันนี้ MINT, SCB / EPG* (เป้า 10, ตัดขาดทุน 7.10), THRE* (เป้า 0.66, ตัดขาดทุน 0.54)

แนวรับ 1570-1590 จุด / แนวต้าน : 1600-1610. สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐฯขาดดุลการค้าลดลง 3.6% – กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานตัวเลขขาดดุลการค้าเดือน ก.ย. ลดลง 3.6% สู่ระดับ $7.04 หมื่นล้าน จากตัวเลขยอดส่งออกลดลง 1.6% และนำเข้าที่ชะลอตัว

สงครามการค้าส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อกลุ่มผู้ผลิตในสหรัฐฯ ผลสำรวจ NABE บ่งชี้ว่า บริษัทสหรัฐฯได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 35% ในเดือน ต.ค. สูงขึ้นจาก 28% ในเดือน ก.ค.

สศค.ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 62 - เหลือ 2.8% จากคาดการณ์เดิมที่ 3% จากผลของตัวเลขส่งออกที่หดตัวลงถึง 2.5% จากผลของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมถึง เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง

ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากฟื้น ออมสิน เปิดเผยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากช่วงไตรมาส 3/62 ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 44.9 ขณะที่

เลื่อนใช้ TAS32 – สภาวิชาชีพยืนยันการเริ่มใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ TAS32 ปี 2563 แต่ในส่วนหุ้นกู้ด้อยสิทธิคล้ายทุนคาดอนุญาตให้ทยอยตั้งสำรอง 1-3 ปี ส่งผลดีต่อ IVL, ANAN, PF, MINT, CPALL, CPF, PTTEP, TTCL ที่ออกหุ้นกู้ perpetual bond ดังกล่าว

ประเด็นติดตาม: 29 ต.ค.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ, 30 ต.ค. – FOMC meeting / US GDP 3Q62, 31 ต.ค. – Manufacturing PMI ของจีน, 1 พ.ย.ตัวเลขเงินเฟ้อไทย

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)