‘อีเอ’ หวังธุรกิจใหม่ดันรายได้ทะลุ 2 หมื่นล้าน
‘พลังงานบริสุทธิ์’ คาดรายได้ปีหน้าทะลุ 2 หมื่นล้าน โต 61 % จากปีนี้ เหตุ รับรู้รายได้ธุรกิจใหม่ ‘ขายรถยนต์ไฟฟ้า -กรีนดีเซล-พีซีเอ็ม’ ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนปรับตัวสูงขึ้น หลังรับรู้รายได้เต็มปี 644 เมกะวัตต์ สร้างกระแสเงินสด ปีละ 1.1 หมื่นล้าน
นางสาวออมสิน ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 2563 เพิ่มขึ้น 61 % หรือ อยู่ที่กว่า 2 หมื่นล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทจะรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ คือ การขายรถยนต์ไฟฟ้า จำนวน 5,000 คัน ราคาขายคันละ 1.2 ล้านบาท รวมมูลค่า 6,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีคำสั่งซื้อจำนวน 4,500 คัน โดยบริษัทจะเริ่มส่งมอบรถไฟฟ้าล็อตแรก จำนวน 800 คัน ในไตรมาส 2 และทยอยครบทั้งหมดในช่วงไตรมาส4 ปี 2562 มีรายได้จากการขายกรีนดีเซล และสารเปลี่ยนสถานะ ( PCM )ประมาณ1,000 ล้านบาท และ การให้บริการเดินเรือไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจะเริ่มในเดือนก.พ.ปีหน้าจำนวน 2 ลำ และ ทยอยเพิ่มครบ 42 ลำ ในช่วงปลายปี
ส่วนธุรกิจเดิมคือโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และ พลังงานลม จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 10 % จากปีนี้ เพราะ จะรับรู้รายได้จากเต็มปี 664 เมกะวัตต์ และ บริษัทจะมีแผนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า ให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น โดยบริษัทคาดว่าธุรกิจพลังงานทดแทนจะสร้างกระแสเงินสดให้บริษัทปีหน้า 1.1 หมื่นล้านบาท รวมถึงธุรกิจไบโอดีเซล คาดว่าปริมาณการผลิตและราคาขายจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
‘ สัดส่วนรายได้ปี 2563 ของบริษัทจะเปลี่ยนไป โดยจะมาจาก โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 51 % การจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 27 % กรีนดีเซล และ PCM 4 % บริการเดินเรือไฟฟ้า และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 1 % และ ไบโอดีเซล 25 % จากปี 2562 สัดส่วนรายได้มาจาก โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 75 % และ ไบโอดีเซล 25 % ’
ทั้งนี้บริษัทตั้งงบลงทุนปี 2563 จำนวน 7,388 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ประมาณ 5,000 ล้านบาทใช้ลงทุนโครงการผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนเฟสแรก ขนาดกำลังการผลิต 1 กิ๊กะวัตต์ต่อชั่วโมงต่อปี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทดลองผลิตในไตรมาส3 ปี 2563 และ เริ่มผลิตอย่างเป็นทางการไตรมาส4ปี 2563 ที่เหลือลงทุนโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ,เรือไฟฟ้า, โรงงานผลิต กรีนดีเซล ,PCM และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ฯลฯ