‘กสิกร’เร่งปั๊มรายได้ค่าฟี เบนเข็มเจาะชนชั้นกลาง
"กสิกรไทย" ปรับกลยุทธ์มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางเพิ่มขึ้น หวังดันรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจประกันและการขายกองทุนผ่านแบงก์ หวังค่าฟีกระเตื้องภายใน 2-3 ปีข้างหน้า
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า แนวโน้มรายได้ค่าธรรมเนียมในปีหน้ายังติดลบอยู่ 5-17% จากการหันไปทำธุรกรรมบนดิจิทัลมากขึ้นของผู้บริโภค และมาตรฐานบัญชีใหม่TFRS9 อย่างไรก็ตามธนาคารหวังว่า ในระยะข้างหน้า รายได้ส่วนนี้จะกลับมาเติบโตได้ จากการปรับกลยุทธ์ หันไปเจาะกลุ่มลูกค้าผู้ที่มีรายได้ปานกลาง หรือมีเงินเดือนราว 15,000 บาทต่อเดือนมากขึ้น ในธุรกิจประกัน และการขายกองทุนผ่านธนาคาร เนื่องจากที่ผ่านมาฐานลูกค้าของธนาคารเป็นกลุ่มผู้รายได้สูง
ปัจจุบัน ธนาคารเริ่มออกโปรดักท์ที่สามารถซื้อผ่านออนไลน์ โดยแค่1บาทก็สามารถลงทุนได้ หรือการทำโปรดักท์ประกัน เพื่อเจาะกลุ่มระดับล่างมากขึ้น จะมีส่วนหนุนให้มีฐานลูกค้าใหม่จากต่างธนาคารมากขึ้น และหนุนให้รายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารเพิ่มขึ้นได้ในช่วง2-3ปีข้างหน้า ส่วนการขายประกันผ่านแบงก์ เชื่อว่ามีนี้มีโอกาสพลิกเป็นบวกได้ จาก2-3 ปีที่ผ่านมาที่ติดลบ และคาดว่าปีหน้ารายได้จากส่วนนี้จะกลับมาบวกได้ต่อเนื่อง
“สำหรับการคุมค่าฟีของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)นั้น ธนาคารไม่ได้กังวล เพราะวันนี้การเก็บค่าฟีโดยเฉพาะเอสเอ็มอี สมเหตุสมผลอยู่แล้ว เรามีรายละเอียดชี้แจงกับธปท.ได้ทุกอย่าง หากธปท.เรียกให้ชี้แจง ส่วนการเข้าไปรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิตสำหรับลูกหนี้ดีนั้น อันนี้รอดูรายละเอียดก่อน แต่เดิมเราก็เข้าไปช่วยเหลือกลุ่มนี้อยู่แล้ว"
นางสาวขัตติยา ยังกล่าวอีกว่า ล่าสุดธนาคารได้ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติหรือ เนคเทค เพื่อพัฒนาโปรแกรมประมวลผลภาษาธรรมชาติหรือ NLP เพื่อแปลภาษามนุษย์ให้เข้าใจมากขึ้น เพื่อนำนวัตกรรมดังกล่าวมาใช้ในการตอบคำถามผู้ใช้บริการทางการเงินมากขึ้น โดยเฉพาะแชทบอท ที่จะช่วยลดต้นทุน ลดความผิดพลาดในการให้บริการลงได้ และคาดว่าแชทบอทจะเข้ามามีส่วนสำคัญในการให้บริการมากขึ้น